ต่างประเทศ

คนรุ่นใหม่อินเดียกระโจนลงทุน “เพิ่มความเสี่ยง” ตลาดหุ้นภารตะ

อินเดีย
ชีพจรเศรษฐกิจโลก

นงนุช สิงหเดชะ

ตลาดหุ้นอินเดียถือว่ามีความร้อนแรงตลาดหนึ่ง โดยระยะ 10 เดือนที่ผ่านมาดัชนี BSE Sensex ปรับเพิ่มขึ้นเกิน 20% ส่วนหนึ่งได้แรงหนุนจากธนาคารกลางอินเดียที่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปในตลาดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญออกมาเตือนว่าตลาดหุ้นอินเดียอาจปรับตัวลงมาก ซึ่งจะกระทบต่อนักลงทุนรายย่อยและผู้เพิ่งลงทุนครั้งแรกมากที่สุด

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์รายใหญ่ เช่น โกลด์แมน แซกส์ และโนมูระฯ ได้ปรับลดมุมมองตลาดหุ้นอินเดียเนื่องจากราคาแพงเกินไป ประกอบกับการทำไอพีโอของ Paytm ซึ่งเป็นไอพีโอใหญ่สุดของประเทศ มีผลงานน่าผิดหวัง ราคารูดต่ำกว่าไอพีโออย่างมากหลังเข้าเทรด ส่งผลให้นักลงทุนรายย่อยขาดทุน

แม้แนวโน้มตลาดหุ้นจะมีความไม่แน่นอนและอาจสร้างความสูญเสียมากมายให้กับนักลงทุนรายย่อย แต่การลงทุนหุ้นเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับการฝากเงินกับธนาคารซึ่งได้ดอกเบี้ยต่ำมาก ดังนั้น คนหนุ่มสาวหรือคนรุ่นมิลเลนเนียลจึงเลือกจะกระโจนเข้าสู่ตลาดหุ้น

“นิธิน คามัตธ์” ประธานบริหาร Zerodha บริษัทโบรกเกอร์ออนไลน์รายใหญ่สุดของอินเดียบอกว่า ในแต่ละวันมีนักลงทุนซื้อขายผ่าน Zerodha 10-12 ล้านคำสั่ง โดยยอดคำสั่งที่กำลังเพิ่มขึ้นนี้มาจากนักลงทุนหน้าใหม่ครั้งแรก ซึ่งมีอายุเฉลี่ยต่ำกว่า 30 ปีที่สามารถส่งคำสั่งซื้อขายอย่างสะดวกรวดเร็วผ่านโทรศัพท์มือถือ

นักลงทุนหนุ่มสาวเหล่านี้เองที่ขับเคลื่อนตลาดหุ้นอินเดียขึ้นไปสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ แต่หลายคนก็เข้าซื้อหุ้นในช่วงเวลาที่ความเสี่ยงกำลังสูงขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลให้กับผู้สังเกตการณ์ เพราะเมื่อดูจากพี/อีล่วงหน้า 1 ปีของ Sensex จะเห็นว่าอยู่ที่ระดับเกือบ 21 เมื่อเทียบกับพี/อี MSCI ตลาดเกิดใหม่ซึ่งอยู่ที่ 12.3

ในเอเชียตั้งแต่เวียดนามไปจนถึงเกาหลีใต้ ประชาชนพากันนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นเช่นกัน แต่ไม่มีที่ใดมีนักลงทุนหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมากเท่าอินเดีย เฉพาะปีนี้นักลงทุนรายย่อยเทเงินเข้าไปในตลาดหุ้น 8.6 แสนล้านรูปี เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมีเพียง 5.12 แสนล้านรูปี ตามข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์อินเดียระบุว่า ช่วงต้นปีที่แล้วมีนักลงทุนหน้าใหม่เปิดบัญชีเล่นหุ้นเพิ่มขึ้นเดือนละ 4 แสนราย ส่วนปีนี้ผู้เปิดบัญชีใหม่ขยับขึ้นเป็น 2.6 ล้านรายต่อเดือน

แม้ตลาดหุ้นอินเดียจะปรับลงมาบ้าง แต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาก็ยังถือเป็นเดือนที่ดีที่สุดสำหรับบริษัทโบรกเกอร์ เพราะไม่ว่าจะเป็น Zerodha และคู่แข่งอย่าง Angel One และ 5paisa.com ต่างบอกว่ามีลูกค้าใหม่เดือนละเกือบ 4 แสนราย

ซึ่งในความเห็นของประธานบริหาร Zerodha ชี้ว่าการที่นักลงทุนหนุ่มสาวไม่ถอยจากตลาดหุ้นเพราะพวกเขาไม่มีอะไรจะเสียมากนัก เพราะอายุยังน้อยสามารถรอกำไรในอนาคตได้อีกนาน พวกเขาสามารถทำผิดพลาดได้ เรียนรู้แล้วก็ลุกขึ้นได้ใหม่ ดังนั้น แม้ตลาดจะปรับตัวลงแต่ก็ยังมีโอกาสและที่ทางสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่เพราะตลาดหุ้นอินเดียมีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อยน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น

“กอรอฟ พาธานการ์” นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ระบุว่า ครอบครัวชาวอินเดียนำเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นเพียง 7% ขณะที่ตลาดเกิดใหม่รายใหญ่อื่น ๆ ลงทุนเฉลี่ย 30% ละตินอเมริกา 40% ส่วนประเทศพัฒนาแล้วอย่างอเมริกาอยู่ที่ 50%

ซาเมียร์ กอล กรรมการผู้จัดการ TrustPlutus Wealth India กล่าวว่า เมื่อมีใครสักคนมาบอกตนว่ากำลังลงทุนหุ้นเพื่อหารายได้มาเป็นค่าใช้จ่ายประจำเดือน มันเป็นเรื่องน่ากังวลเพราะตลาดหุ้นไม่สอดคล้องกับเศรษฐกิจจริง ถ้าหากคนพากันคิดว่าสามารถทำเงินในตลาดหุ้นได้ง่าย ๆ เหมือนในกาสิโนมันเป็นสัญญาณที่น่าห่วง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คนอื่น เช่น แอชูทอช ไทคาร์ จากบีเอ็นพี พาริบาส์ เอสเอเห็นว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งตลาดหุ้นอินเดียคงไม่ให้ผลตอบแทนสูง แต่เชื่อว่านักลงทุนจะไม่โยกย้ายไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ความเร็วในการลงทุนหุ้นอาจลดลงแต่จะไม่เกิดการไหลออกอย่างมากมาย