
“no-jab, no job” ซิตี้กรุ๊ป ประกาศเดดไลน์ 14 ม.ค. เลิกจ้างพนักงานที่ไม่ยอดฉีดวัคซีนโควิด
วันที่ 8 มกราคม 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป สถาบันการเงินชั้นนำของโลก ได้ออกประกาศว่าจะยุติสัญญาการจ้างงานสำหรับพนักงานที่ไม่ยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ภายในวันที่ 14 มกราคมนี้ ซึ่งถือเป็นคำเตือนครั้งสุดท้ายหลังจากที่บริษัทได้ใช้นโยบายวัคซีนภาคบังคับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยยังระบุถึงข้อบังคับการจ้างงานสำหรับพนักงานใหม่ด้วย
ซิตี้กรุ๊ปถือเป็นสถาบันการเงินชั้นนำของวอลล์สตรีตแห่งแรกที่ใช้มาตรการเข้ม “ไม่ฉีด, ไม่มีงาน” หรือ “no-jab, no job” ขณะบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกันกำลังพิจารณาแนวทางนี้เช่นกัน เพื่อให้พนักงานกลับเข้ามาทำงานได้อย่างปลอดภัย ท่ามกลางความเสี่ยงของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
“ธนาคารจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดให้พนักงานทุกคนที่ทำงานภายใต้โครงการที่มีการทำสัญญากับรัฐบาลจะต้องฉีดวัคซีนให้ครบโดส เนื่องจากหน่วยงานภาครัฐถือเป็นลูกค้ารายใหญ่และสำคัญของซิตี้กรุ๊ป” ตอนหนึ่งในประกาศของซิตี้กรุ๊ประบุ
นอกจากซิตี้กรุ๊ป เอกชนใหญ่รายอื่น ๆ ของสหรัฐต่างใช้มาตรการวัคซีนภาพบังคับเช่นกัน ซึ่งรวมถึงกูเกิล และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ขณะที่ปัจจุบันมีพนักงานของซิตี้กรุ๊ปกว่า 90% แล้วที่เข้ารับวัคซีนโควิด อย่างไรก็ตามซิตี้ระบุว่าจะพิจารณาข้อยกเว้นทางด้านการแพทย์เป็นการเฉพาะต่อพนักงานบางรายที่ไม่อาจเข้ารับวัคซีนได้
ทั้งนี้ วัคซีนภาคบังคับได้กลายเป็นประเด็นที่สร้างความแตกแยกในสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับในหลายประเทศทั่วโลก โดยมีผู้ต่อต้านอย่างรุนแรงและบรรดาฝ่ายนิยมพรรครีพับลิกันหลายคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงข้อบังคับของรัฐบาลและเอกชนที่ถูกมองว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ขณะภาครัฐและเอกชนที่สนับสนุนการฉีดวัคซีนมองว่า การฉีดวัคซีนโควิดถือการแสดงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมเพื่อยุติการระบาด