กระแส NFT ‘ฮ่องกง’ ร้อนแรง ยุคตื่น (เก็งกำไร) ดิจิทัลอาร์ต

กระแส NFT ‘ฮ่องกง’ ร้อนแรง ยุคตื่น (เก็งกำไร)...ดิจิทัลอาร์ต

ศูนย์กลางทางการเงินแห่งเอเชียอย่าง “ฮ่องกง” กำลังกลายเป็นสมรภูมิร้อนแรงของนักพัฒนา “โทเค็นที่ไม่สามารถทดแทนกันได้” (nonfungible token) หรือ “เอ็นเอฟที” และจากกฎระเบียบที่เป็นมิตรต่อธุรกิจและนักลงทุนมาอย่างยาวนาน ทำให้ฮ่องกงกำลังกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าจับตา

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า นักพัฒนาเอ็นเอฟทีในฮ่องกงกำลังแข่งขันเปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ เพื่อดึงดูดนักลงทุนกันอย่างคึกคัก หลังจากที่เห็นโอกาสเติบโตจากโปรเจ็กต์เอ็นเอฟที ที่ประสบความสำเร็จในการทำกำไรอย่างงดงาม

ทั้งนี้ เอ็นเอฟทีเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะตัวหรือเรียกได้ว่ามีชิ้นเดียวในโลก โดยระบุความเป็นเจ้าของผ่านระบบบล็อกเชน เอ็นเอฟทีจึงนำมาใช้งานในโปรเจ็กต์ที่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะหรือดิจิทัลอาร์ตจำนวนมาก ซึ่งมีศักยภาพในการสะสม แลกเปลี่ยน และเก็งกำไร

“มังกี้ คิงดอม” (Monkey Kingdom) เป็นโปรเจ็กต์เอ็นเอฟทีที่เปิดตัวในฮ่องกงเมื่อ ธ.ค. 2021 และประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อภาพกราฟิก “ซุนหงอคง” (Monkey King) จำนวน 2,222 ภาพ หมดลงภายในเวลาไม่กี่วินาที โดยราคาซื้อขายแต่ละภาพพุ่งขึ้นเฉลี่ยราว 35 โซลานา (solana) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือคิดเป็นประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ช่วงเดียวกัน ยังมีการเปิดตัวโปรเจ็กต์ “ลัคกี้ คิตเทนส์” (Lucky Kittens) หรือเอ็นเอฟทีภาพกราฟิกแมวนำโชค ซึ่งสามารถดึงดูดนักลงทุนได้เป็นจำนวนมากเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีการโปรโมตโปรเจ็กต์ที่เตรียมจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ในฮ่องกงอีกหลายโปรเจ็กต์ อย่าง “โกอิ้ง เอป” (Going Ape) และ “เบิร์นเอาต์ เอ็กซ์เซล มังกี้ คลับ” (Burnout Excel Monkey Club)

ผู้พัฒนาเอ็นเอฟทีเหล่านี้นับเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในอีกหลายสิบรายที่เข้าสู่ตลาดเอ็นเอฟทีฮ่องกง โดยตั้งเป้าเดินตามความสำเร็จของโปรเจ็กต์เอ็นเอฟทีระดับโลกอย่าง คอลเล็กชั่น “บอเรด เอปส์ ยอชต์ คลับ” (Bored Apes Yacht Club) ที่ปัจจุบันถือเป็นโปรเจ็กต์เอ็นเอฟทีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ซึ่งภาพกราฟิกลิง “บอเรด เอปส์” บางภาพสามารถขายได้มูลค่ากว่า 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ

“ลัคกี้กัปตัน” นามแฝงของผู้พัฒนาโปรเจ็กต์ลัคกี้ คิตเทนส์ ระบุกับเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ว่า “พื้นที่ของเอ็นเอฟทีกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว ตอนนี้เราจะเห็นโปรเจ็กต์ใหม่เกิดขึ้นแทบทุกวัน”

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็น “ยุคตื่นทอง” ในตลาดเอ็นเอฟที โดยตลาดเอ็นเอฟทีทั่วโลกอยู่ที่ 10,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 3/2021 เพิ่มขึ้นกว่าแปดเท่าจากไตรมาส 2/2021 ตามข้อมูลของแพลตฟอร์มติดตามและวิเคราะห์ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล “แดปป์เรดาร์” (DappRadar)

ทั้งนี้ การขยายตัวของตลาดเอ็นเอฟทีฮ่องกง ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการปราบปรามอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีของรัฐบาลจีนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ฮ่องกงกลายเป็นพื้นที่รองรับนักลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ขยับออกจากจีนแผ่นดินใหญ่

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเอ็นเอฟทียังมีความเสี่ยง กรณีการแฮกระบบของโปรเจ็กต์มังกี้ คิงดอมในเดือน ธ.ค. 2021 ซึ่งแฮกเกอร์สามารถขโมยเหรียญของผู้ซื้อขายเอ็นเอฟทีไปได้เกือบ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้จะมีความพยายามชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็แสดงให้เห็นช่องโหว่ทางเทคโนโลยีที่น่ากังวล

นอกจากนี้ ความร้อนแรงของตลาดเอ็นเอฟทีที่ผลักดันให้ราคาของผลงานดิจิทัลอาร์ตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังเสี่ยงที่จะนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ที่ราคาของผลงานเหล่านั้นสูงกว่าความเป็นจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนอาจต้องชั่งน้ำหนักในการตัดสินใจลงทุนในตลาดเอ็นเอฟที