อินเดีย จองที่ 3 ตลาดการบิน

“อินเดีย” ตั้งเป้าครองตลาดการบินเบอร์ 3 รอง จากจีนและสหรัฐ

นักวิเคราะห์ประเมินว่ามีโอกาสสำเร็จสูง ขณะที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดว่าปี 2036 จะมีผู้โดยสาร 478 ล้านคน มากกว่าในญี่ปุ่นและเยอรมนี

บลูมเบิร์กรายงานว่า สนามบินนานาชาติมุมไบรองรับเที่ยวบินกว่า 969 เที่ยว เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นการทุบสถิติโลก หากนับเฉพาะสนามบินที่มีรันเวย์เพียง 1 สาย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลจะพัฒนาให้อินเดียเป็นตลาดการบินของโลกอันดับ 3 รองจากจีน และสหรัฐ ภายในปี 2020 หรืออาจเลื่อนเป็นปี 2027

ทั้งนี้เป้าหมายของรัฐบาลทั้งการเป็นตลาดการบินเบอร์ 3 และเป็นเบอร์ 1 ของโลกในปี 2030 ดูไม่น่าไกลเกินเอื้อม เพราะอินเดียเป็นหนึ่งในชาติที่มีนวัตกรรมใหม่ และเป็นที่ยอมรับของสากล

ขณะที่ศูนย์การบินเอเชีย-แปซิฟิก (CAPA) ระบุว่า การขึ้นเป็นเบอร์ต้นในตลาดการบินโลกจะเพิ่มรายได้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และในอีก 10 ปีข้างหน้าคาดว่าจะช่วยสร้างงานให้คนในอินเดียอย่างน้อย 2.6 ล้านตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม อินเดียควรเพิ่มนักบินเป็น 16,802 คน จาก 6,772 คนในปัจจุบัน หากต้องการติด 1 ใน 3 ของตลาดการบินโลกภายในปีที่กำหนด

หนังสือพิมพ์ Livemint ของอินเดีย รายงานว่า รัฐบาลอาจจะมีแผนสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสและโบอิ้งเพิ่มเป็น 1,600 ลำ ตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ขณะที่รายงานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุว่า อินเดียและสหราชอาณาจักร มีเป้าหมายเดียวกัน คือเจ้าตลาดการบินเบอร์ 3 แต่สหราชอาณาจักรอาจชวดเพราะวิกฤต “เบร็กซิต” รุนแรง

ในปี 2036 อินเดียจะมีผู้โดยสารเข้ามาในประเทศสูงถึง 478 ล้านคน จากปัจจุบัน 260 ล้านคน สูงกว่าญี่ปุ่นที่มี 225 ล้านคน และเยอรมนีที่ 200 ล้านคน

ทั้งนี้ นายอเล็กแซนเดอ เด จูแน็ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IATA กล่าวว่า “ผลบวกจากนโยบายของรัฐบาล ทั้งรายได้จากธุรกิจการบิน ท่องเที่ยว หรือธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง ต้องไม่ลืมความท้าทายในเรื่องคุณภาพด้วย เพราะยิ่งขยายโครงข่ายทางอากาศมากเท่าไหร่ คุณภาพการบินต้องมีความเสถียรมากขึ้นเท่านั้น”