ไมโครซอฟท์ทุ่มเกือบ 70,000 ล้านดอลลาร์ ซื้อบริษัทเกม “Activision Blizzard” เหมาเกม คอลออฟดิวตี้ ดิอาโบล โอเวอร์วอตช์ อยู่ใต้สังกัด Xbox กรุยทางรุกเมตาเวิร์ส จ่อเป็นบิ๊กดีลใหญ่สุดในประวัติศาสตร์
วันที่ 19 มกราคม 2565 สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ยักษ์ใหญ่ด้านคอมพิวเตอร์ ประกาศทุ่มเงินสดเป็นจำนวนกว่า 68,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท เข้าซื้อบริษัทเกมรายใหญ่ แอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) ผู้สร้างและเจ้าของลิขสิทธิ์เกม Candy Crush, World of Warcraft และ Call of Duty อันโด่งดัง โดยมีเป้าหมายสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เพื่อเตรียมรุกเข้าสู่การแข่งขันตลาดโลกเสมือนจริง หรือเมตาเวิร์ส
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
รายงานระบุว่า หากข้อเสนอซื้อของไมโครซอฟท์ ได้รับความเห็นชอบจากสภาคองเกรส และสหภาพยุโรป มูลค่าของดีลนี้จะถือเป็นการควบรวมของบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่บริษัทคอมพิวเตอร์ เดลล์ (Dell) เข้าเทกโอเวอร์กิจการของบริษัทผู้ผลิตไดร์ฟจัดเก็บข้อมูล EMC ด้วยวงเงิน 60,000 ล้านดอลลาร์เมื่อ 2016
ท่ามกลางระหว่างเจรจา แอคติวิชัน บลิซซาร์ด ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารต่อไปของ บ็อบบี้ โกทิค โดยหากสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันสายงานบริหารของ แอคติวิชัน บลิซซาร์ด จะขึ้นตรงต่อนาย “ฟิล สเปนเซอร์” ซีอีโอแผนกเกมของไมโครซอฟท์ ซึ่งมีแผนนำเกมของแอคติวิชัน บลิซซาร์ด มาร่วมอยู่ในแพลตฟอร์มเกมของไมโครซอฟท์อย่าง Xbox ซึ่งไมโครซอฟท์คาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดสมาชิก Xbox ได้
โดยหลังมีข่าวการควบรวมกิจการ ราคาหุ้นของ แอคติวิชัน บลิซซาร์ด พุ่งขึ้นทันที 27% ในช่วงเปิดตลาดวันอังคาร สวนทางการกับหุ้นของโซนี่ อีกหนึ่งคู่แข่งที่ปรับลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ สำหรับข้อตกลงมูลค่ากว่า 69,000 ล้านดอลลาร์ จะทำให้ไมโครซอฟท์กลายเป็นผู้ผลิตวิดีโอเกมรายใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลก ในแง่ของรายได้ รองจาก โซนี่ และเทนเซนต์