การซื้อขายเก็งกำไรผลงานศิลปะในตลาดโทเค็นที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้หรือ “เอ็นเอฟที” (NFT) ส่งผลให้ผลงานบางชิ้นมีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องตานักลงทุน แต่ตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วโดยปราศจากการควบคุมกลับกลายเป็นช่องโหว่สำหรับการก่ออาชญากรรมทางการเงิน โดยเฉพาะการฟอกเงินผ่านการซื้อขายงานศิลป์ดิจิทัลราคาสูง ที่สามารถเล็ดลอดสายตาของหน่วยงานกำกับดูแล
รอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกาเผยแพร่รายงานเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2022 โดยออกคำเตือนเกี่ยวกับตลาดการซื้อขายผลงานศิลปะหรือดิจิทัลอาร์ตราคาสูงในรูปแบบเอ็นเอฟที ที่อาจกลายเป็นแหล่งฟอกเงินรูปแบบใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย อย่างเช่นการจัดหาเงินทุนสำหรับการก่อการร้าย
- สถิติหวย ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวด 16 เมษายน ย้อนหลัง 10 ปี
- “พลังงานไฮโดรเจน” ถูกกว่าน้ำมัน 60% ไทยเริ่มศึกษาแต่ เยอรมัน กำลังจะเลิกใช้
- อย.เปิดชื่ออาหารเสริม พบสารอันตราย ร้ายแรงจนถึงแก่ชีวิต เตรียมดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ เอ็นเอฟทีเป็นรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเฉพาะตัว ผลงานดิจิทัลอาร์ตจำนวนมากจึงถูกนำมาแปลงให้อยู่ในรูปแบบเอ็นเอฟที ซึ่งผู้ครอบครองสามารถซื้อขายเก็งกำไรได้ “เจฟเฟอรีส์” ธนาคารเพื่อการลงทุนระดับโลกคาดว่า ในปีนี้มูลค่าการซื้อขายเอ็นเอฟทีจะแตะระดับ 35,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ตลาดเอ็นเอฟทีเป็นเทคโนโลยีการเงินแบบไม่รวมศูนย์ (Defi) ที่ตัดตัวกลางในการดำเนินการออกไป ทำให้ไม่อยู่ภายใต้นโยบายการป้องกันการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย (AML/CFT) ซึ่งเป็นแนวปฏิบัติของสถาบันทางการเงินทั่วโลก
ตลาดเอ็นเอฟทีจึงมีความเสี่ยงที่จะกลายเป็นช่องทางสำหรับการปกปิดที่มาของแหล่งเงินทุน และรักษาสภาพคล่องทางการเงินของอาชญากร ในการดำเนินกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมาย
รายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่า “ขณะนี้พบหลักฐานบางประการเกี่ยวกับการฟอกเงินในตลาดผลงานศิลปะมูลค่าสูง แต่ยังคงมีหลักฐานเพียงเล็กน้อยที่เชื่อมโยงกิจกรรมทางการเงินของกลุ่มก่อการร้าย”
ขณะที่ข้อมูลของ “เชนนาไลซิส” (Chainalysis) แพลตฟอร์มติดตามและวิเคราะห์เทคโนโลยีบล็อกเชน ระบุว่า การปลอมแปลงข้อมูลและนามแฝงเพื่อเปิดใช้งานวอลเลตซื้อขายเอ็นเอฟทีในหลายแพลตฟอร์มสามารถทำได้ง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ให้กิจกรรมทางการเงินผิดกฎหมายเพิ่มสูงขึ้น
โดยในไตรมาส 4/2021 มีการซื้อขายเอ็นเอฟทีด้วยคริปโทเคอร์เรนซี ที่มาจากวอลเลตที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย รวมมูลค่ากว่า 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
แม้ว่ามูลค่าการฟอกเงินในตลาดเอ็นเอฟทีจะยังคงมีสัดส่วนไม่สูงนัก หากเทียบกับมูลค่าการซื้อขายโดยรวม แต่เชนนาไลซิสประเมินว่า กิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายเหล่านี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจากขนาดของตลาดเอ็นเอฟทีที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
“สกอตต์ แรมแบรนดท์” เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า “เรากำลังจัดการความท้าทายอย่างเป็นระบบ ด้วยการสร้างความโปร่งใสและปิดช่องโหว่ที่เอื้อต่อการใช้งานระบบการเงินสหรัฐในทางที่ผิด รวมถึงกำลังพิจารณาประเด็นอื่น ๆ ที่อาจจำเป็นต่อการป้องกันการฟอกเงินในอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมศิลปะ”
กระทรวงการคลังสหรัฐได้ระบุคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการป้องกันการฟอกเงิน ตั้งแต่การเพิ่มความเข้มข้นในการบังคับใช้กฎหมายของผู้ให้บริการ และการประสานงานกับหน่วยงาน “เครือข่ายปราบปรามอาชญากรรมทางการเงิน” ของสหรัฐ เพื่อรวบรวมและตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้บริการ
นอกจากนี้ ผู้ให้บริการควรเพิ่มช่องทางในการตรวจสอบรายงานกิจกรรมที่น่าสงสัยบนแพลตฟอร์ม รวมถึงเพิ่มกระบวนการในการรู้จักตัวตนผู้ใช้บริการของตนเอง (know-your-customer) ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อสกัดกั้นอาชญากรที่แฝงอยู่ในคราบของผู้ซื้อขายงานศิลป์เอ็นเอฟที