โควิดฮ่องกงนิวไฮ ติดเชื้อพุ่ง 7,000 ราย วิกฤตร้ายกว่าอู่ฮั่น

โควิด ฮ่องกง
FILE PHOTO : REUTERS/James Pomfret

โควิดฮ่องกงติดเชื้อทุบสถิติ 7,533 จำนวนนี้เป็นทารก 11 เดือน รัฐบาลเล็งยกระดับคุมเชื้อ เชื่อ 2 เดือนเอาอยู่ แผ่นดินใหญ่ส่งกำลังเสริมความช่วยเหลือ

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565 สถานีโทรทัศน์ทีวีบี สื่อท้องถิ่นฮ่องกง เปิดเผยว่า ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทุบสถิติทำนิวไฮที่ 7,533 ราย เสียชีวิต 13 คน จำนวนนี้เป็นทารกอายุ 11 เดือน รวมอยู่ด้วย ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาลฮ่องกงในความท้าทายต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ที่กำลังต่อสู้กับตัวเลขผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงต่อเนื่อง ด้วยตัวเลขการระบาดที่สูงกว่าโควิดที่เคยระบาดในเมืองอู่ฮั่น

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ทางการกำลังเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดถึงการระบาดภายในสถานรับเลี้ยงเด็กเล็ก โดยพบว่ามีการติดเชื้อจากศูนย์ดังกล่าวแล้ว 250 แห่ง มีผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังกว่า 700 คน

ในขณะที่เมืองใหญ่ของประเทศอื่นกำลังเรียนรู้ที่จะอยู่กับไวรัส แต่ฮ่องกงเป็นพื้นที่ซึ่งใช้มาตรการควบคุมเชื้ออย่างเข้มงวด

ผู้เชี่ยวชาญบางรายกล่าวว่า ฮ่องกงไม่มีนโยบาย “โควิดแบบไดนามิก” ซึ่งสะท้อนต่อนโยบายโควิดเป็นศูนย์ตามแบบฉบับคุมโควิดของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งนั่นกำลังทำให้สภาพเศรษฐกิจและสังคมของฮ่องกงประสบปัญหา

เพื่อรับมือต่อการระบาด รัฐบาลฮ่องกงเตรียมแผนเปิด “วัคซีนพาสปอร์ต” ซึ่งจะกำหนดให้ผู้ที่มีความเสี่ยงน้อย และมีประวัติการรับวัคซีนครบแล้ว สามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ อาทิ ซูเปอร์มาร์เก็ต ทว่าอย่างไรก็ตาม บางฝ่ายกังวลว่าแผนดังกล่าวอาจแลกมาด้วยการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของพลเมือง

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายโรงพยาบาลในฮ่องกงเต็มไปด้วยเตียงผู้ป่วยโควิดที่ล้นออกมาตามทางเดิน ระบบสาธารณสุขใกล้เกินขีดจำกัด ทำให้ฮ่องกงจำต้องปรับกลยุทธ์รับมือ โดยให้ผู้ที่ไม่มีอาการเข้ารับการกักตัวภายในโรงแรมหรือที่บ้านแทน

ขณะเดียวกัน ก็มีแผนเปลี่ยนเทอมินัลท่าเทียบเรือสำราญซึ่งร้างจากการต้อนรับนักท่องเที่ยวมานาน ให้เปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสนามแทน อีกทั้งรัฐบาลกำลังเดินหน้าสร้างโรงพยาบาลสนามบนเกาะลันเตา และเปลี่ยนอาคารของรัฐ โรงแรม ศูนย์กีฬาในร่มเป็นศูนย์รักษาและกักตัวผู้ป่วยโควิดแบบอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการอีกกว่า 20,000 เตียง

โซเฟีย ชาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฮ่องกง กล่าวว่า รัฐบาลกำลังพิจารณายกระดับมาตรการเว้นระยะทางสังคมให้เพิ่มมากขึ้น จนถึงขณะนี้แม้ฮ่องกงยังไม่ใช้ยาแรงล็อกดาวน์ทั้งเมือง แต่ก็ใช้การบังคับพลเมือง 7.5 ล้านคน ให้ต้องเข้ารับการตรวจโควิดทุกคน

ขณะที่รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ได้ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้เชี่ยวชาญด้านรับมือโควิดขั้นวิกฤตกว่า 100 คน มายังฮ่องกง พร้อมรถตรวจเคลื่อนที่เพื่อเสริมความช่วยเหลือ

ด้านหนังสือพิมพ์ซิง เตา (Sing Tao) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทางการฮ่องกงยังไม่มีแผนที่จะเปิดโรงยิมและสถานเสริมความงามในเร็ว ๆ นี้ จากที่ก่อนหน้านี้มีกำหนดเปิดให้บริการอีกครั้งในวันที่ 24 ก.พ. และยังไม่ได้ตัดสินใจในเรื่องดังกล่าวสำหรับร้านทำผม รวมถึงอาจกำหนดให้มีผู้ร่วมโต๊ะอาหารได้สูงสุด 2 คนต่อโต๊ะในร้านอาหารบางประเภท

เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเตรียมการสำหรับการตรวจหาเชื้อภาคบังคับให้กับพลเมืองทุกคน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ใช้เป็นประจำในจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด แต่ก็ต้องใช้ทรัพยากรมากอย่างไม่เคยมีมาก่อนสำหรับฮ่องกง

“เรากำลังจับตามองสถานการณ์ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้าอย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจว่าจะควบคุมอย่างไร” เอ็ดวิน สุ่ย ผู้ควบคุมศูนย์รักษาสุขภาพกล่าว พร้อมเสริมว่า ในมาตรการต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้การพิจารณา อาจมีการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบสถานะการฉีดวัคซีนของประชาชนในศูนย์การค้า รวมถึงขยายข้อจำกัดการรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร

“เมื่อมองย้อนกลับไป มาตรการของเรายังนับว่าไม่เข้มงวดเพียงพอ ยังไม่รอบคอบมากพอ” เรจิน่า อิป สมาชิกคณะรัฐมนตรีบริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงกล่ากับบลูมเบิร์กว่า เธอคาดว่าจากมาตรการต่าง ๆ ที่ใช้ในปัจจุบัน ประกอบการเตรียมยกระดับแผนรับมือ เชื่อว่าฮ่องกงน่าจะสามารถคุมสถานการณ์ระบาดได้ภายใน 2 เดือน ก่อนถึงกำหนดการเลือกตั้งผู้นำฮ่องกงรอบใหม่ในวันที่ 8 พ.ค. นี้