องค์กรความร่วมมือกลุ่มชาติอิสลาม (โอไอซี) ประกอบด้วย 57 รัฐสมาชิก จัดการประชุมวาระฉุกเฉินที่นครอิสตันบูล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศรับรองสถานะกรุงเยรูซาเลมในฐานะ “เมืองหลวง” ของอิสราเอล โดยหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งครั้งล่าสุดระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ที่ประชุมโอไอซี มีมติเห็นพ้องเรียกร้องประชาคมโลก ให้ยอมรับพื้นที่นครเยรูซาเลมตะวันออกเป็นเมืองหลวงอันชอบธรรมของ “ปาเลสไตน์” หลังถูกอิสราเอลผนวกยึดครอง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
โดยแถลงการณ์ร่วมของโอไอซี ที่มีสมาชิกรวมถึงตุรกี ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อียิปต์ จอร์แดน และอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศมุสลิมขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้ประณามการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐที่ยอมรับนครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงอิสราเอล โดยถือเป็นโมฆะเเละไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการบ่อนทำลายความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลางเเละสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย
ขณะเดียวกันได้เรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตัน ให้ถอนตัวจากบทบาทใดๆ ในกระบวนการสันติภาพตะวันออกกลาง
ด้านประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันแห่งตุรกี ระบุว่า อิสราเอลเป็นเหมือนรัฐก่อการร้าย เเละรัฐบาลสหรัฐจะไม่อยู่ในฐานะผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์อีกต่อไป
ฝั่งประธานาธิบดีมาห์มุด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ กล่าวสุนทรพจน์ว่า รับไม่ได้ที่สหรัฐเป็นคนกลางการเจรจาสันติภาพตะวันออกกลาง เพราะสหรัฐเต็มไปด้วยความเอนเอียงเเละเข้าข้างอิสราเอล โดยปาเลสไตน์ต้องการให้องค์การสหประชาชาติ เข้ามาจัดการดูเเลเรื่องดังกล่าว
คลิกอ่าน >>>> “เยรูซาเลม” สำคัญอย่างไร?…ตัดสินใจครั้งใหญ่ ผู้นำสหรัฐ “ทรัมป์” จุดไฟเดือดตะวันออกกลาง