สถานการณ์สู้รบ “รัสเซีย-ยูเครน” ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นราคาโลหะและพลังงานที่สูงขึ้น แต่ปัญหาใหญ่ที่ผู้ผลิตรถยนต์ใน “ยุโรป” ต้องเผชิญในขณะนี้ คือปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญในการผลิตรถยนต์ จากการหยุดชะงักของโรงงานในยูเครน
รอยเตอร์ส รายงานว่า ค่ายรถยนต์รายใหญ่ในยุโรป อย่าง “โฟล์คสวาเกน” และ “บีเอ็มดับเบิลยู” ต้องระงับการผลิตรถยนต์โรงงานบางแห่งในยุโรปเป็นการชั่วคราว เนื่องจากขาดแคลนชิ้นส่วนสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากซัพพลายเออร์ในยูเครนไม่สามารถดำเนินการผลิตหรือส่งออกสินค้ามายังยุโรปได้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
ชิ้นส่วนที่ว่าคือ “ชุดสายไฟ” (wire harnesses) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับการเดินสายเคเบิลความยาวประมาณ 5 กิโลเมตรภายในตัวรถแต่ละคัน โดยชุดสายไฟนี้ได้รับการออกแบบสำหรับการติดตั้งในรถยนต์แต่ละรุ่นเป็นการเฉพาะ เพื่อให้พอดีกับรูปทรงและการทำงานของรถยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์หรูที่มีการออกแบบระบบไฟฟ้าอย่างซับซ้อน
ทั้งนี้ “ยูเครน” เป็นฐานผลิตและส่งออกชุดสายไฟรายใหญ่ไปยังยุโรป ด้วยต้นทุนที่ต่ำและแรงงานมีทักษะสูง รวมถึงระยะทางที่ใกล้กับโรงงานผลิตรถยนต์ในยุโรป ทำให้มีบริษัทผู้ผลิตชุดสายไฟต่างชาติเข้ามาลงทุนในยูเครนหลายราย อย่าง “ฟูจิคูระ” (Fujikura) ของญี่ปุ่น “เน็กซานส์” (Nexans) ของฝรั่งเศส และ “ลีโอนี” (Leoni) ของเยอรมนี
ไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า การส่งออกชุดสายไฟยูเครนมีสัดส่วน 1 ใน 5 ของความต้องการทั้งหมดในยุโรป บริษัทวิจัย ออโตอนาไลซิส ระบุว่า การบุกยูเครนของรัสเซียส่งผลให้โรงงานผลิตชุดสายไฟในยูเครนเกือบ 40 แห่งไม่สามารถดำเนินการได้
การหยุดชะงักของโรงงานในยูเครนส่งผลให้ค่ายรถยนต์ในยุโรปหลายรายไม่สามารถผลิตรถยนต์ต่อได้ “เฮอร์เบิร์ต ดีสส์” ซีอีโอของโฟล์คสวาเกน เปิดเผยว่า “ปกติเราใช้งานชุดสายไฟที่ผลิตจากยูเครน แต่นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้นก็ได้เริ่มมองหาทางเลือกอื่น”
โรงงานในโรมาเนีย เซอร์เบีย ตูนิเซีย ไปจนถึงเม็กซิโก และอาจรวมถึงจีนกลายเป็นทางเลือกที่โฟล์กสวาเกนกำลังพิจารณาเป็นแหล่งผลิตแทน เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูที่กำลังเร่งเจรจากับซัพพลายเออร์แหล่งใหม่ ส่วน “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ก็ระบุว่า กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
“โดมินิก ไทรบ์” ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจ เวนดิจิทัล ระบุว่า การผลิตชุดสายไฟต้องใช้แรงงานที่มีทักษะสูงพอสมควร เนื่องจากความซับซ้อนของสายเคเบิลยาวหลายกิโลเมตรและตัวเชื่อมอีกหลายร้อยตัว และยังต้องใช้การหุ้มและทดสอบด้วยมือ
นอกจากนี้ ต้นทุนของชุดเครื่องมือผลิตชุดสายไฟในโรงงานแห่งใหม่ยังสูงถึง 100,000-200,000 ปอนด์ และต้องใช้เวลาราว 3-6 เดือน จึงจะสามารถเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ รวมทั้งการย้ายเทคโนโลยีหรือต้นแบบชุดสายไฟจากโรงงานในยูเครนไปยังประเทศอื่นยังมีความยากลำบากในเวลานี้
แม้ว่าปัจจุบัน ผู้ผลิตหลายรายจะใช้วิธีเพิ่มกำลังการผลิตในโรงงานที่มีอยู่ในประเทศอื่น เพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่หายไปในยูเครน หรือแม้กระทั่งโรงงานบางส่วนในยูเครนกลับมาผลิต แต่ก็ยังไม่สามารถผลิตได้เต็มศักยภาพ
นอกจากนี้ การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนยังติดขัด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขาดแคลนคนขับรถบรรทุกและช่องทางการเดินทางข้ามพรมแดนที่จำกัดลงท่ามกลางภาวะสงคราม