ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น มีมติอนุมัติเเผนการจัดซื้อระบบต่อต้านขีปนาวุธ “Aegis Ashore” (เอจิส อะชอร์) ประจำการบนภาคพื้นดินจากสหรัฐจำนวน 2 ชุด เพื่อเสริมกำลังในการป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
“การพัฒนาขีปนาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นภัยคุกคามต่อญี่ปุ่น เราจะมั่นใจว่าเราสามารถป้องกันตัวเองได้ ด้วยการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธ” นายอิซึโนริ โอโนะเดระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังจากการประชุมคณะรัฐมนตรี
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ทั้งนี้ จากเดิมญี่ปุ่นมีระบบต่อต้านขีปนาวุธอยู่ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบแพทริออท และระบบเอจิส ที่ติดตั้งอยู่บนเรือพิฆาต
แหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ระบบต่อต้านขีปนาวุธ Aegis Ashore สามารถป้องกันพื้นที่ของญี่ปุ่นได้ครอบคลุมทั้งประเทศ คาดว่าจะใช้ค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 58,000 ล้านบาท) เเละมีแผนจะนำเข้าประจำการในปี 2566
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่จัดซื้อจัดหาขีปนาวุธแบบโจมตีทางอากาศ หรือแม้แต่เครื่องบินขับไล่ก็ไม่มีระบบยิงโจมตี มีเพียงเเค่ระบบต่อต้านขีปนาวุธเท่านั้น โดยเป็นหน้าที่ของสหรัฐที่จะปกป้องความมั่นคงของญี่ปุ่นเเละภูมิภาค ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญญี่ปุ่น ที่บังคับใช้หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นต้องยอมรับเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญเพราะเป็นฝ่ายเเพ้สงคราม
นิกเคอิ เดลี่ รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายเพิ่มงบประมาณด้านการทหารสำหรับปีงบประมาณที่จะเริ่มในเดือนเม.ย.2561 สูงถึง 5.19 ล้านล้านเยน หรือราว 1.5 ล้านล้านบาท โดยถือเป็นการเพิ่มงบประมาณการทหารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 เเละสูงขึ้นจากงบประมาณปัจจุบันซึ่งเคยได้รับอนุมัติที่ 1.4 ล้านล้านบาท ซึ่งงบดังกล่าวจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธเอจิส อะชอร์ ของสหรัฐอเมริกาด้วย
