สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า UPS บริษัททำธุรกิจขนส่งพัสดุภัณฑ์ด่วนใหญ่ที่สุดในโลก กล่าวเมื่อวันอังคารว่ากำลังซื้อรถบรรทุกไฟฟ้า “Semi” จำนวน 125 คัน จากเทสลา (Tesla) ซึ่งบริษัทเผยว่านี่ถือเป็นคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้
โดยก่อนหน้านี้เทสลา บริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศราคารถบรรทุกเริ่มต้นเพียง 150,000 ดอลลาร์สำหรับรุ่นระยะทาง 300 ไมล์และ 180,000 ดอลลาร์สำหรับรุ่นที่สามารถใช้งานได้ 500 ไมล์ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ซึ่งราคาต่ำกว่าการประเมินจาก MIT Technology Review ที่คาดว่าราคาของรถบรรทุกจะอยู่ที่ 400,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้บริษัทยังกล่าวว่า รถบรรทุกไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 200,000 ดอลลาร์ ตลอดอายุการใช้งานของรถบรรทุก
UPS คาดว่ารถบรรทุกขนาดใหญ่ที่จะขนสินค้าไปตามทางหลวงของอเมริกาเเละอาจจะมีต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ต่ำกว่ารถยนต์ทั่วไปประมาณ 120,000 ดอลลาร์ รวมถึงบริษัทยังให้ข้อมูลเส้นทางการส่งสินค้าเเก่เทสลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการประเมินผลการดำเนินงาน
สก็อตต์ ฟิลิปปี้ ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการบำรุงรักษาและวิศวกรรมสำหรับการดำเนินงานระหว่างประเทศของ UPS กล่าวกับรอยเตอร์ว่า เราต้องการให้เเน่ใจว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะประสบผลสำเร็จ รถบรรทุกจำนวน 125 คัน จะช่วยให้บริษัททำงานได้อย่างเต็มที่ เเต่ยังมีข้อกำหนดว่ารถบรรทุกจากเทสลาจะใช้สำหรับเส้นทางหลักในสหรัฐ
“เรามีความคาดหวังสูงและมองโลกในแง่ดีว่ารถบรรทุกนี้จะส่งผลดีต่อบริษัท เเละจะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากเทสลาเพื่อให้สามารถทำงานได้ดี” ฟิลิปปี้ กล่าว
ก่อนหน้านี้เทสลาได้รับคำสั่งซื้อล่วงหน้าจากบริษัทใหญ่ๆ อาทิ Walmart ผู้ดำเนินการ J.B Hunt Transport Services และผู้ให้บริการด้านอาหาร Sysco โดยมีคำสั่งซื้อรวมกันอย่างน้อย 410 ออเดอร์ เเละตามมาด้วยคำสั่งซื้อที่ใหญ่ที่สุดจาก USP ถึง 125 คัน
อย่างไรก็ตามเทสล่าเปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วว่ารถบรรทุกจะสามารถผลิตได้ภายในปี 2019 ซึ่งในช่วงเช้าการซื้อขาย Nasdaq หุ้นเทสล่าลดลง 0.1% มาอยู่ที่ 338.61 ดอลลาร์