จีนเปิดระบบ ‘บำนาญส่วนบุคคล’ สร้าง ‘เงินออม’ รับมือสังคมสูงวัย

ปัญหาสังคมผู้สูงวัยกำลังเป็นประเด็นสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่อย่าง “จีน” ในหลายด้าน โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น ขณะที่จำนวนแรงงานภายในประเทศกลับหดตัวลง ทำให้รัฐบาลจีนต้องเป็นผู้แบกรับภาระหนักในการดูแลผู้สูงอายุทั่วประเทศ ส่งผลให้มีการเร่งออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนและเพิ่มพูนสินทรัพย์เตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณอายุ

รอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลจีนได้เปิดตัวนำร่อง “ระบบบำนาญส่วนบุคคล” (private pension) สำหรับประชาชนทั่วไปโดยสมัครใจเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2565 ครอบคลุมคนกลุ่มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานในเมืองและผู้คนในชนบท โดยจะเปิดทดลองใช้ระบบดังกล่าวในบางเมืองเป็นเวลา 1 ปี ก่อนที่จะดำเนินการทั่วประเทศ

ผู้เข้าร่วมระบบบำนาญส่วนบุคคลจะสามารถจ่ายเงินสมทบได้สูงสุด 12,000 หยวน/ปี ซึ่งอาจมีการปรับเพดานให้สอดคล้องกับมาตรฐานการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนในอนาคต โดยสามารถเปิดบัญชีได้กับธนาคารพาณิชย์ หรือสถาบันทางการเงินที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งเจ้าของบัญชีจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ หลังเกษียณ

การเปิดตัวระบบบำนาญส่วนบุคคล ถือเป็นก้าวสำคัญในความพยายามส่งเสริมการลงทุนและเพิ่มพูนสินทรัพย์หลังเกษียณอายุของประชากรจีน เพิ่มเติมจากระบบประกันบํานาญขั้นพื้นฐาน (basic pension insurance) ภายใต้ระบบประกันสังคมของรัฐ และระบบบำเหน็จบำนาญขององค์กรต้นสังกัดตามที่มีอยู่เดิม

ทั้งนี้ จีนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่า ข้อมูลขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ชี้ให้เห็นว่า สัดส่วนของประชากรจีนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป จะเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 10.6% ของจำนวนประชากรทั้งหมดในปี 2017 เพิ่มเป็น 26.3% ในปี 2050 ขณะที่คนชราที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป ก็อาจเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า จาก 1.8% 
ในปี 2017 เป็น 8.1% ในปี 2050

การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุจีนดังกล่าวกำลังสร้างแรงกดดันอย่างหนักต่องบประมาณของประเทศ โดยในปี 2020 สินทรัพย์ในโครงการบำเหน็จบำนาญทั้งหมดของจีนรวมกันมีมูลค่าประมาณ 285,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีสัดส่วนเพียง 2% ของจีดีพี

ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตของประชากรวัยเกษียณที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ตามข้อมูลของ “วิลลิส ทาวเวอร์ส วัตสัน” (Willis Towers Watson) บริษัทบริหารความเสี่ยงและโบรกเกอร์ประกันภัยระดับโลก

“ลีโอ เซิน” หัวหน้าฝ่ายธุรกิจการจัดการกองทุนในจีนของอลิอันซ์ โกลบอล อินเวสเตอร์ ระบุว่า “ในระยะกลางและระยะยาว นโยบายใหม่นี้จะเป็นประโยชน์ต่อตลาดการเกษียณอายุ โดยช่วยเพิ่มการสะสมรายได้ของประชากร และเพิ่มเงินออมสำหรับผู้เกษียณอายุ ทั้งยังช่วยสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับการลงทุนให้กับคนทั่วไป”

นอกจากนี้ ระบบบำนาญส่วนบุคคลยังเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายของรัฐบาลจีนในการย้ายเงินออมสำหรับการเกษียณอายุของประชาชนเข้าสู่ตลาดเงินมากขึ้น พร้อมกับความพยายามดึงดูดบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ระดับโลกให้เข้ามาขยายธุรกิจในประเทศจีน

โดยผู้ถือบัญชีระบบบำนาญส่วนบุคคลจะไม่สามารถถอนเงินล่วงหน้าได้ แต่สามารถนำเงินดังกล่าวไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินตามข้อกำหนด โดยเน้นการลงทุนความเสี่ยงต่ำ มุ่งรักษา
มูลค่าในระยะยาว เช่น กองทุนบริหารความมั่งคั่งของธนาคาร เงินฝาก และกองทุนสาธารณะ เป็นต้น

ขณะที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์จีน (CSRC) เปิดเผยว่า กำลังเร่งพิจารณากฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการลงทุนของกองทุนบำนาญ โดยระบุว่า “เงินบำนาญสามารถเป็นกองทุนระยะยาวที่มีเสถียรภาพ สำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริผ่านตลาดทุนได้”

“ลอเรน จอห์นสตัน” ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสที่วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยแอดิเลด วิเคราะห์ว่า “มาตรการดังกล่าวพุ่งเป้าไปที่แรงงานชนชั้นกลางของจีน โดยใช้แรงจูงใจด้านภาษีในการจ่ายเงินสมทบเข้าบัญชีระบบบำนาญส่วนตัวทุกปี ซึ่งเงินทุนเหล่านี้จะช่วยสร้างความเติบโตให้กับอุตสาหกรรมทางการเงินและการบริหารความมั่งคั่งของจีน”

ในช่วงปีที่ผ่านมา มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนระดับโลกหลายรายเข้ามาสู่ตลาดการจัดการสินทรัพย์จีน อย่าง “แบล็กร็อก” (BlackRock) บริษัทจัดการการลงทุนข้ามชาติสัญชาติอเมริกันที่เข้ามาร่วมทุนกับธนาคาร “ไชน่า คอนสตรักชั่น แบงก์” เปิดตัวผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งสำหรับเงินบำนาญในจีน เช่นเดียวกับ “โกลด์แมน แซกส์ แอสเซต แมเนจเมนต์” ที่บุกตลาดจัดการสินทรัพย์ในจีนเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวของจีนยังคงมีความท้าทายในแง่ของการจูงใจให้ประชาชนเข้าร่วมระบบบำนาญส่วนบุคคล ซึ่งจากข้อมูลในปี 2021 รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชากรจีนอยู่ที่ 35,128 หยวน ซึ่งยังไม่สูงมากนักและอาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจจ่ายเงินสมทบเพื่อเข้าร่วมระบบดังกล่าว