ร่างกฎหมายนี้ผ่านด้วยเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์ คาดว่าจะมีการลงนามโดยประธานาธิบดีสหรัฐต่อไป
วันที่ 28 เมษายน 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติเป็นเอกฉันท์ผ่านกฎหมายที่เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศเสนอแผนช่วยเหลือไต้หวันฟื้นสถานะผู้สังเกตการณ์ในองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งถือเป็นความร่วมมือของสองพรรคที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฎหมายด้วยคะแนน 425 ต่อ 0 เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หลังจากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยหลังจากนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งไปยังทำเนียบขาว เพื่อให้ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ลงนามเป็นกฎหมาย
ไต้หวันถูกขับออกจากองค์กรระดับโลกส่วนใหญ่ เช่น WHO ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านสุขภาพของสหประชาชาติ เนื่องจากการคัดค้านของทางการจีน ซึ่งถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และไม่ใช่ประเทศที่แยกจากกัน
ร่างกฎหมายของสหรัฐจะชี้นำให้รัฐมนตรีต่างประเทศกำหนดกลยุทธ์ในการรับสถานะผู้สังเกตการณ์ในการประชุมสมัชชาอนามัยโลก ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ตัดสินใจของ WHO
ไต้หวันถูกปลดสถานะผู้สังเกตการณ์เมื่อปี 2560 หลัง “ไช่ อิงเหวิน” ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีไต้หวัน
ทางการจีนมองว่าไช่เป็นผู้มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดน และได้เพิ่มแรงกดดันต่อไต้หวันตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่ง โดยพยายามจำกัดการมีส่วนร่วมของไต้หวัน ไม่เฉพาะใน WHO แต่ยังรวมถึงองค์กรอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการเมือง เช่น องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)
จำนวนประเทศที่ไต้หวันรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการก็ลดลงเช่นกัน นับตั้งแต่ไช่ขึ้นเป็นประธานาธิบดี ปัจจุบันมีเพียง 15 ประเทศที่ยอมรับไต้หวันเป็นประเทศอธิปไตย
“เจอร์รี คอนนอลลี” ผู้แทนจากพรรคเดโมแครต สนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมชื่นชมการรับมือโควิด-19 ระบาดของไต้หวัน โดยชี้ว่าไต้หวันพบผู้ติดเชื้อเพียง 37,000 ราย จากประชากร 23.5 ล้านคน พร้อมชี้ว่าไต้หวันได้แบ่งปันความเชี่ยวชาญและบริจาคอุปกรณ์ป้องกันให้กับต่างประเทศด้วย
“ความเป็นผู้นำและการสนับสนุนด้านความมั่นคงทางสุขภาพระดับโลกของไต้หวัน แสดงให้เห็นว่าเหตุใดไต้หวันจึงควรเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมหารือในด้านสาธารณสุข”
กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้แสดงความขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของสหรัฐ โดยระบุว่ารัฐบาลไต้หวันกำลังพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ในปีนี้
ก่อนหน้านี้จีนชี้ว่า จีนไม่สนับสนุนไต้หวันให้เข้าร่วมการประชุมในปีนี้
ทั้งนี้ ไต้หวันรณรงค์อย่างหนักเพื่อให้ได้ที่นั่งสังเกตเการณ์ในการประชุมปี 2564 แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
