อาเซียน เสี่ยงเจอวุ่นวายใหญ่ จากราคาอาหารทะยานต่อเนื่อง

ประเทศอาเซียน
Photo by Mladen ANTONOV / AFP

นักวิเคราะห์มองชาติอาเซียนเสี่ยงเจอภัยคุกคามทางสังคมครั้งใหญ่ หากราคาอาหารยังคงพุ่งสูง

วันที่ 12 พฤษภาคม 2565 สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานความคิดเห็นของนายโมฮัมหมัด ฟาอีซ นากูทา นักเศรษฐศาสตร์จาก Bank of America (BofA Securities) ซึ่งให้ความเห็นต่อซีเอ็นบีซีอย่างน่าสนใจว่า ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เสี่ยงเผชิญภัยความมั่นคงทางสังคมครั้งใหญ่ หากว่าราคาอาหารในภูมิภาคนี้ปรับตัวสูงขึ้น

นักวิเคราะห์ของ Bank of America กล่าวในรายการ Street Signs Asia ของช่องซีเอ็นบีซีว่า เนื่องจากภูมิภาคอาเซียนเป็นกลุ่มชาติที่มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านอาหารมากกว่าสัดส่วนในค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ เช่น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งเป็นชาติทีมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านอาหารมากกว่าค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆ

จากข้อมูลของสำนักสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์เมื่อปี 2021 ครัวเรือนชาวฟิลิปปินส์มีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มสูงถึง 40% ของรายได้ เมื่อเทียบกับครัวเรือนในสหรัฐที่มีรายจ่ายค่าอาหารเฉลี่ยที่ราว 8.6% ของรายได้ตามข้อมูลของ Economic Research Service ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

นายนากูทากล่าวว่า แม้เงินเฟ้อเดินอาหารในอาเซียนยังคงน้อยกว่า เนื่องจากมีการพึ่งพิงการค้าในภูมิภาคระหว่างกันในปริมาณมาก ประกอบกับมีมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลในการพยุงปัจจัยราคาอาหาร ทว่าอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลไม่อาจอุ้มได้ตลอด สุดท้ายราคาอาหารก็ต้องปรับขึ้นอยู่ดีทั้งแนวโน้มปรับแรงซึ่งจะส่งผลต่อชีวิตของผู้คน

โดยปกติแล้ว การปรับราคาอาหารเพียงเล็กน้อยในภูมิภาคนี้ ก็กระทบต่อชีวิตของผู้คนแล้ว ยิ่งเศรษฐกิจกลับมาเปิดอีกครั้งหลังการระบาด ผู้คนกลับมาใช้บริการส่วนต่าง ๆ มากขึ้น ความต้องการจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อยิ่งสูงขึ้น และเมื่อผนวกรวมกับอัตราเงินเฟ้อและอาหารทั่วโลก จะยิ่งดันให้เงินเฟ้อโดยรวมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงขึ้นไปอีก

อย่างไรก็ตาม แม้แนวโน้มเงินเฟ้อในระยะยาวยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ใดบ้างที่จะทรงตัว เนื่องจากมีหลายปัจจัย แต่นายนากูทากล่าวว่า โดยพื้นฐานแล้วเราเชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูง และยังคงสูงทั่วโลก ซึ่งสำหรับอาเซียนอัตราเงินเฟ้อน่าจะอยู่ในระดับสูงเมื่อกว่าจุดที่บรรดาธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ ประเมินไว้”