ทำไมกองทัพอินเดียเดินหน้า ซื้ออาวุธจากรัสเซีย ทั้งที่ซื้อของชาติอื่นด้วย

ซื้ออาวุธจากรัสเซีย
AP PHOTO

การพึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์จากรัสเซียของอินเดียที่มีมายาวนาน ใช่ว่านึกจะเลิกก็เลิกได้อย่างที่ชาติตะวันตกอยากเห็น เมื่อดูตามความเป็นจริงแล้วอินเดียยังคงต้อง ซื้ออาวุธจากรัสเซียต่อไป

วันที่ 15 พฤษภาคม 2565 บีบีซีไทย เผยแพร่รายงานของ ชรุติ เมนอน ทีมตรวจสอบความจริงของบีบีซี ต่อคำถามที่ว่า อินเดียจะลดการพึ่งพาด้านกลาโหมจากรัสเซียนได้หรือไม่ หลังจากถูกจับจ้องและถูกกดดันจากพันธมิตรชาติตะวันตก

นางนิรมาลา สิตารามัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอินเดีย กล่าวอย่างตรงไปตรงมา ระหว่างการเยือนสหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน เม.ย.ว่า อินเดียอยากเป็น “เพื่อนที่ดี” ของชาติตะวันตก แต่อินเดียก็ไม่อยากอ่อนแอ และจำเป็นต้องรักษาความมั่นคงของชาติเอาไว้

สหรัฐก็รู้ดีอินเดียยังต้องพึ่งรัสเซีย

รายงานของรัฐสภาสหรัฐ ที่เผยแพร่เมื่อเดือน ต.ค. 2564 ระบุว่า กองทัพอินเดียจะไม่สามารถปฏิบัติการได้อย่างมีประสิทธิภาพหากปราศจากยุทโธปกรณ์จากรัสเซีย และอินเดียจะยังต้องพึ่งพาระบบอาวุธของรัสเซียต่อไปในระยะใกล้และระยะกลาง

รายงานระบุว่า อาวุธที่รัสเซียเสนอขายให้แก่อินเดียนั้นมีราคาที่ดึงดูดใจ

AFP

นางสังคีตา ซาเซนา บรรณาธิการ Aviation and Defence Universe เว็บไซต์บริการข่าวสารด้านการบินและกลาโหม ที่มีสำนักงานในกรุงนิวเดลี ระบุว่า กองทัพอินเดียจะยังคงเดินหน้าซื้ออาวุธจากรัสเซียต่อไป

เธอให้เหตุผลเรื่องนี้ว่า ไม่เพียงทหารอินเดียจะคุ้นเคยกับยุทโธปกรณ์ของรัสเซีย แต่ยังเป็นเพราะทั้งสองชาติมีความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันมายาวนาน

แต่ขณะเดียวกันเธอชี้ว่า อินเดียยังต้องการพัฒนาอุตสาหกรรมกลาโหมของตนเอง เพื่อผลิตอาวุธใช้เองในประเทศโดยมีความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระดับสูงกับประเทศต่าง ๆ

ซื้ออาวุธจากรัสเซีย

นางซาเซนา บอกว่า อินเดียจะซื้ออาวุธจากใครก็ตามที่ยื่นข้อเสนอที่เหมาะสมและดีที่สุดสำหรับตน ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นรัสเซีย หรือประเทศอื่น ๆ

ความเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองระหว่างประเทศในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้อินเดียมีความสัมพันธ์กับประเทศอื่นๆ เช่น ฝรั่งเศส สหรัฐฯและอิสราเอล แน่นแฟ้นขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้น อินเดียยังไม่ยอมร่วมกับนานาชาติในการประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าอินเดียไม่ต้องการเลือกข้าง

ผู้เชี่ยวชาญด้านกลาโหมบางคนเชื่อว่า การที่รัสเซียถูกแซงก์ชั่นจากนานาชาติ อาจทำให้อินเดียมีทางเลือกไม่มาก นอกจากลดระดับการพึ่งพารัฐบาลรัสเซียลง

 

เพิ่มการซื้ออาวุธจากชาติอื่น

ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อินเดียเริ่มลดการพึ่งพาด้านอาวุธจากรัสเซียลง และหันไปซื้อจากประเทศอื่นแทน โดยเฉพาะจากฝรั่งเศส รวมทั้งอิสราเอล สหรัฐฯ และซื้อจากสหราชอาณาจักรอีกเล็กน้อยด้วย

ข้อมูลจาก SIPRI แสดงให้เห็นว่า อินเดียมีมูลค่าการซื้ออาวุธจากฝรั่งเศส สหรัฐ และอิสราเอล เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปี 2564 เมื่อเทียบกับปี 2560 

อินเดียซื้อเครื่องบินขับไล่ราฟาล เครื่องบินรบมิราจ และเรือดำน้ำสกอร์เปนจากฝรั่งเศส โดยในช่วงการเยือนฝรั่งเศสครั้งล่าสุดของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ทั้งสองชาติได้ตกลงเพิ่มความร่วมมือด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยทางการทหาร

เครื่องบินรบ จากัวร์ จากฝรั่งเศส / AFP

การเยือนอินเดียของนายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือน เม.ย.ทั้งสองฝ่ายก็ประกาศกระชับความสัมพันธ์ด้านการทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านความร่วมมือเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครื่องบินขับไล่ที่ทันสมัย

นอกจากนี้ อินเดียยังหันไปจับมือกับอิสราเอลในเรื่องความมั่นคงและเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ทันสมัยต่าง ๆ อาทิ :

  • อุปกรณ์โดรน
  • ระบบเตือนภัยทางอากาศ
  • ระบบป้องกันการโจมตีจากขีปนาวุธ
  • อาวุธนำวิถี

ขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ทางด้านทหารระหว่างอินเดียกับสหรัฐ ก็แน่นแฟ้นขึ้น โดยมีมูลค่าการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2561-2562

ทำไมอินเดีย
President Joe Biden meets virtually with Indian Prime Minister Narendra , April 11, 2022. (AP Photo/Carolyn Kaster)

อินเดียมีการซื้อยุทโธปกรณ์ครั้งใหญ่จากสหรัฐ อาทิ เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล เครื่องบินลำเลียง C-130 รวมถึงขีปนาวุธ และโดรน เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุถึงเรื่องการกระชับความสัมพันธ์กับอินเดียในการป้องกันทางอวกาศ และความมั่นคงทางไซเบอร์

อย่างไรก็ตาม รัสเซียยังคงเป็นผู้ขายอาวุธรายใหญ่ให้แก่อินเดียอยู่

เป็นลูกค้ามาตั้งแต่สมัยโซเวียต

อินเดียเป็นหนึ่งในผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก และมีความสัมพันธ์ด้านกลาโหมที่ใกล้ชิดกับอดีตสหภาพโซเวียตมายาวนาน

แม้สหภาพโซเวียตจะล่มสลายไปแล้วในช่วงทศวรรษที่ 1990 แต่การที่อินเดียเป็นคู่ปรปักษ์กับปากีสถาน และกำลังมีความขัดแย้งเพิ่มขึ้นกับจีน ก็ทำให้รัสเซียยังคงเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของรัฐบาลอินเดียต่อไป

ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (Stockholm International Peace Research Institute หรือ SIPRI) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 1992 ราว 2 ใน 3 ของอาวุธยุทโธปกรณ์อินเดียมาจากรัสเซีย

รัสเซียโชว์แสนยานุภาพในวันฉลองชัยชนะ May 9, 2022,  (AP Photo/Alexander Zemlianichenko)

สติมสันเซ็นเตอร์ (Stimson Center) ศูนย์วิจัยในสหรัฐ ประเมินว่า อาวุธของรัสเซียอาจมีสัดส่วนถึง 85% ของยุทโธปกรณ์ที่อินเดียมีอยู่ทั้งหมด ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง เครื่องบินรบ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เรือบรรทุกเครื่องบิน รถถัง และขีปนาวุธ

อย่างไรก็ตาม นายซาเมียร์ ลัลวานี นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมและความมั่นคงจาก สติมสันเซ็นเตอร์ ระบุว่า สงครามในยูเครนอาจทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งมอบอาวุธที่อินเดียสั่งซื้อไปได้ครบ เช่น ระบบขีปนาวุธที่ยิงจากภาคพื้นสู่อากาศ S-400 ซึ่งอินเดียสั่งซื้อไปในปี 2018 และรัสเซียได้ส่งมอบให้เพียงบางส่วนเท่านั้น

เขายังเชื่อว่า การที่รัสเซียสูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์ไปในการสู้รบที่ยูเครนก็อาจทำให้ไม่มีอาวุธเพียงพอจะขายให้แก่อินเดีย เพราะต้องเก็บเอาไว้ใช้ในกองทัพของตนเอง