หมดโอกาสคืนชีพแล้ว เรือลำยักษ์ใหญ่สไตล์ราชวงศ์หมิง จัมโบ้ ภัตตาคารลอยน้ำ ไปไม่ถึงจุดหมาย จมลงกลางทะเลจีนใต้ ลึกพันเมตร
วันที่ 21 มิถุนายน 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานเหตุเรือ จัมโบ้ ภัตตาคารลอยน้ำ ที่เพิ่งถูกลากออกจากอ่าวอเบอร์ดีนของฮ่องกง จมลงกลางทะเลจีนใต้ ระหว่างมุ่งหน้าไปยังจุดหมายที่ไม่เปิดเผยเพื่อรอบริษัทผู้จัดการรายใหม่
บริษัท อะเบอร์ดีน เรสเตอรองต์ เอ็นเตอร์ไพรส์ เจ้าของเรือ แจ้งว่า เรือจมลงใกล้กับหมู่เกาะพาราเซล ที่ระดับความลึก 1,000 เมตร ทำให้ยากมากที่จะกู้ขึ้นมา
บริษัทเผยด้วยว่าก่อนหน้านี้ได้ว่าจ้างวิศวกรมาตรวจสอบก่อนออกเดินทางจากฮ่องกงแล้ว แต่เมื่อเผชิญกับสภาพคลื่นลมอันตราย จึงค่อย ๆ จมลง นับเป็น “เหตุการณ์ที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง”
เรือใหญ่ยักษ์ลำนี้ออกแบบให้เหมือนพระราชวังในยุคราชวงศ์หมิงของจีน มีความยาว 76 เมตร บรรทุกผู้มากินอาหารค่ำได้ 2,300 คน เคยเป็นแลนด์มาร์กสำหรับคนมาเที่ยวฮ่องกง แต่ผลประกอบการย่ำแย่ลงตั้งแต่ปี 2013 (พ.ศ.2556)
บริษัทเมลโก อินเตอร์เนชั่นแนล ดีเวลล็อปเมนต์ (Melco International Development) ผู้จัดการเรือ เผยว่ากิจการเริ่มขาดทุนตั้งแต่ปี 2013 ก่อนเจอสถานการณ์โควิดซ้ำเติม ทำให้ต้องปิดตัวลงอย่างถาวร
ก่อนออกเดินทางออกจากฮ่องกงวันที่ 14 มิ.ย. เกิดเหตุส่วนครัวของภัตตาคารหลุดออกมาพลิกเกือบจะ 90 องศา เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. เผยถึงสภาพทรุดโทรมของเรือ ทิ้งส่วนที่พังนี้ไว้
สำหรับหมู่เกาะพาราเซล (Paracel Islands) มีชื่อจีนว่า หมู่เกาะซีชา หมายถึง กลุ่มเกาะทรายตะวันตก ชื่อเวียดนามว่า หมู่เกาะฮหว่างซา แปลว่า กลุ่มเกาะทรายเหลือง เป็นกลุ่มเกาะอยู่ในเขตมณฑลไห่หนาน (ไหหลำ) ประเทศจีน และเป็นดินแดนพิพาทที่ถูกอ้างสิทธิโดยประเทศเวียดนามและไต้หวัน
พื้นที่หมู่เกาะถูกครอบครองบางส่วนโดยจีนมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 ในสมัยราชวงศ์ถังและราชวงศ์ซ่ง และบางส่วนโดยเวียดนามมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 15 ต่อมาเมื่อเกิดการสู้รบกันเมื่อวันที่ 20 มกราคม 1974 (พ.ศ. 2517) ระหว่างจีนกับเวียดนามใต้ จีนได้ครอบครองพื้นที่ทั้งหมด แต่ก็ยังถูกโต้แย้งโดยเวียดนาม
พื้นที่หมู่เกาะประกอบด้วยหินโสโครก เนินทราย และเกาะขนาดเล็กมากกว่า 30 แห่ง ตั้งอยู่ระหว่างชายฝั่งทะเลของเวียดนาม จีน ห่างจากเกาะไห่หนานไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 180 ไมล์ทะเล ครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรประมาณ 15,000 ตารางกิโลเมตร