ศึกคู่ขนานสงครามยูเครน ระหว่างมหาอำนาจ สหรัฐอเมริกา-รัสเซีย ร้อนระอุด้วยคำขู่จากทั้งสองฝ่าย หลังรัสเซียเจอลิทัวเนียแหย่รังแตน ปิดทางวิ่งรถไฟขนส่งสินค้า
วันที่ 22 มิถุนายน 2565 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า นายเน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เปิดแถลงท่าทีตอบโต้รัสเซีย พร้อมปกป้องลิทัวเนีย กรณีที่ชาติพันธมิตรถูกรัสเซียข่มขู่ ว่า “เรายืนหยัดเคียงข้างเหล่าพันธมิตรของนาโต้ และเราเคียงข้างลิทัวเนีย”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- กีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เสียชีวิต อายุ 56 ปี
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวย้ำด้วยว่า บทบัญญัติที่ 5 ตามพันธสัญญาของนาโต้ การโจมตีสมาชิกชาติใดก็ตามของกลุ่ม ถือเป็นการโจมตีนาโต้ทั้งหมด นี่คือกฎเหล็กของสหรัฐอเมริกา
เมื่อนักข่าวถามถึงคำแถลงของรัสเซียที่ไม่พอใจลิทัวเนียอย่างยิ่ง นายไพรซ์กล่าวว่า “เราไม่ได้ใส่ใจความกราดเกรี้ยวของรัสเซีย และจะไม่ให้ราคาใด ๆ เลย”
ทั้งนี้ ลิทัวเนียเคยเป็นสมาชิกสหภาพโซเวียต ปัจจุบันเป็นทั้งสมาชิกนาโต้และสมาชิกสหภาพยุโรป อีกทั้งยังเป็นประเทศที่แสดงท่าทีต่อต้านรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างเปิดเผย
กรณีพิพาทล่าสุดเกิดจากการที่ลิทัวเนียห้ามการขนส่งสินค้าทางรถไฟของรัสเซียเข้าไปยังเขตคาลินินกราด ดินแดนแยกเดี่ยวของรัสเซียที่ติดทะเลบอลติก และอยู่คั่นกลางระหว่างลิทัวเนียกับโปแลนด์ มีประชากรอยู่ราว 1 ล้านคน เป็นจุดเชื่อมทางรถไฟของรัสเซียที่ผ่านประเทศลิทัวเนีย
รัฐบาลลิทัวเนียยืนกรานว่าเคารพตามมาตรการแซงก์ชั่นของยุโรปต่อรัสเซียอย่างเคร่งครัด โดยเส้นทางรถไฟดังกล่าว เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าประเภทเหล็กและโลหะต่างๆ รวมไปถึงสินค้าอาหารที่คาดว่าจะกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารเพิ่มเติมอีก
รัฐบาลรัสเซียแถลงข่มขู่ว่าการกระทำของลิทัวเนียเป็นปรปักษ์และต้องเจอกับการตอบโต้และผลกระทบด้านลบอย่างร้ายแรงที่จะตามมาอย่างแน่นอน
นอกจากนี้รัฐบาลรัสเซียยังเรียกทูตสหภาพยุโรป นายมาร์คัส เอเดอเรอร์ เข้าพบเพื่อประท้วงการปิดเส้นทางนี้ของลิทัวเนียตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่ มิ.ย. โดยระบุว่าเจตนาเพิ่มบรรยากาศเผชิญหน้า
ทั้งนี้นับเป็นการเผชิญหน้าในอีกพื้นที่ฝั่งทะเลบอลติกที่ยุโรปยกระดับและยกเครื่องความมั่นคงขึ้นใหม่ หลังจากสวีเดนและฟินแลนด์สมัครเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ ทำให้ฝ่ายพันธมิตรยึดแนวชายฝั่งทั้งหมดเพื่อลดทอนอำนาจทางทะเลของรัสเซีย