EU มติเอกฉันท์ ให้สถานะยูเครน เป็นผู้สมัครสมาชิก

EU มติเอกฉันท์ ให้สถานะยูเครน เป็นผู้สมัครสมาชิก
REUTERS/Dado Ruvic/Illustrations

ผู้นำ 27 ประเทศสหภาพยุโรป ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้สถานะผู้สมัครแก่ยูเครน นับเป็นชัยชนะของฝั่งคุณธรรมที่มีต่อประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม

วันที่ 24 มิถุนายน 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า สหภาพยุโรป (อียู) ตกลงที่จะนำยูเครนเข้าสู่เส้นทางการเป็นสมาชิกของอียู โดยดำเนินการด้วยความรวดเร็วและความสามัคคีอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เพื่อดึงประเทศที่กลายเป็นสนามรบให้ออกห่างจากอิทธิพลของรัสเซีย และผูกมัดให้ใกล้ชิดกับชาติตะวันตกมากยิ่งขึ้น

การประชุมสุดยอดผู้นำที่กรุงบรัสเซลส์เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้นำอียู 27 ประเทศได้ลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการให้สถานะผู้สมัคร แก่ยูเครน ทั้งที่โดยปกติแล้วกระบวนการเป็นสมาชิกอาจใช้เวลานานหลายปีหรือหลายสิบปี

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันก่อนวันครบรอบ 4 เดือนที่ “วลาดิมีร์ ปูติน” ประธานาธิบดีรัสเซีย จะส่งให้กองทหารของเขาบุกเข้าไปในยูเครนเพื่อสิ่งที่รัสเซียยืนยันว่าไม่ใช่สงคราม แต่เป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางหทาร”

“โวโลดีมีร์ เซเลนสกี” ประธานาธิบดียูเครน ทวีตข้อความขอบคุณและประกาศว่า “อนาคตของยูเครนอยู่ในสหภาพยุโรป”

“วันนี้เป็นวันดีสำหรับยุโรป” เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ทวีตข้อความ

อียูยังให้สถานะผู้สมัครกับประเทศเล็ก ๆ อย่างมอลโดวา ซึ่งเป็นอีกประเทศหนึ่งในอดีตสหภาพโซเวียต ที่มีพรมแดนติดกับยูเครน

ยูเครนสมัครเป็นสมาชิกอียูไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ หลังจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ การตัดสินใจเมื่อวันพฤหัสบดีนั้นถือว่ารวดเร็วผิดปกติสำหรับอียู ซึ่งมีแนวทางการขยับขยายที่ช้ามาก แต่สงครามและคำร้องของยูเครนเพื่อให้มีการพิจารณาอย่างรวดเร็วนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้มีการตัดสินใจเร่งด่วน

เพื่อให้ได้สมาชิกภาพในสหภาพยุโรป ประเทศต่าง ๆ จำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการเมืองโดยละเอียด ซึ่งรวมถึงความมุ่งมั่นต่อหลักนิติธรรมและหลักประชาธิปไตย ยูเครนจะต้องควบคุมการทุจริตของรัฐบาล และนำการปฏิรูปอื่น ๆ มาใช้

รัฐสภายุโรปให้การรับรองสถานะผู้สมัครแก่ยูเครน ก่อนหน้าการประชุมสุดยอดจะเริ่มต้นขึ้น โดยผ่านมติซึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลอียูเคลื่อนไหวโดยไม่รอช้า และดำเนินชีวิตด้วยความรับผิดชอบโดยอิงจากประวัติศาสตร์

บรรดาชาติต่าง ๆ ในอียูรวมตัวกันเพื่อสนับสนุนยูเครนต่อสู้กับรัสเซีย ด้วยเงินและอาวุธ พร้อมนำมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมาใช้กับรัสเซียอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

อย่างไรก็ตาม สถานะผู้สมัครสมาชิกอียู ไม่ได้ให้สิทธิโดยอัตโนมัติในการเข้าร่วมกลุ่ม และไม่ได้ให้การรับประกันความปลอดภัยในทันที

แต่เมื่อประเทศผู้สมัครได้รับสถานะสมาชิกแล้ว จะได้อยู่ภายใต้สนธิสัญญาของอียูที่ระบุว่าหากสมาชิกตกเป็นเหยื่อของการรุกรานด้วยอาวุธ ประเทศอื่น ๆ ในอียูจำเป็นต้องช่วยเหลือประเทศดังกล่าวด้วยวิธีการทุกวิถีทาง

ประโยชน์หลักของการเป็นสมาชิกอียูคือด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากช่วยให้เข้าถึงตลาดของผู้บริโภค 450 ล้านคนที่มีการเคลื่อนย้ายแรงงาน สินค้า บริการ และเงินทุน โดยเสรี

ไม่มีข้อโต้แย้ง

ยูเครนแสดงความปรารถนาที่จะเข้าร่วมนาโตด้วยเช่นกัน แต่กลุ่มพันธมิตรทางทหารดังกล่าวไม่ได้เสนอคำเชิญ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการทุจริตของรัฐบาล ข้อบกพร่องในสถานที่ทำการด้านกลาโหม และพรมแดนที่กำลังมีความขัดแย้ง

ก่อนเกิดสงคราม ปูตินเรียกร้องให้นาโตไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก โดยเขาประณามว่ายูเครนกำลังแผ่ขยายไปทางฝั่งตะวันออกของรัสเซีย

แต่เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ดูเหมือนเขาจะไม่กังวลใจเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของยูเครนที่ใกล้ชิดอียูมากขึ้น โดยกล่าวว่า นี่ไม่ใช่ข้อตกลงทางทหาร และด้วยเหตุนี้ เราไม่มีข้อโต้แย้ง