G7 ระดมทุน 6 แสนล้านเหรียญ ลุยโครงการต้านอิทธิพลจีน

G7 ระดมทุน 6 แสนล้านเหรียญ ลุยโครงการโครงสร้างพื้นฐานต้านจีน
Markus Schreiber /Pool via REUTERS

โครงการความร่วมมือโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนทั่วโลกของกลุ่ม G7 จะช่วยจัดหาเงินทุนให้กับโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ

วันที่ 27 มิถุนายน 2565 อัลจาซีราห์รายงานว่า บรรดาผู้นำของกลุ่ม G7 ให้คำมั่นว่าจะระดมเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 21 ล้านล้านบาทเข้ากองทุนภาครัฐและเอกชนตลอดช่วง 5 ปี เพื่อสนับสนุนการเงินในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ และเพื่อต้านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีน ที่เก่าแก่กว่าและมีมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์

“โจ ไบเดน” ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำคนอื่น ๆ ในกลุ่ม G7 ได้เปิดตัวโครงการใหม่ที่ชื่อว่า ความร่วมมือโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนทั่วโลก (Partnership for Global Infrastructure and Investment) เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น ในการประชุมประจำปีที่จัดขึ้นที่โรงแรมชลอส เอลมาว ทางตอนใต้ของเยอรมนี

ไบเดนกล่าวว่า ประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ มักจะขาดโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการช่วยนำทางระหว่างเกิดเหตุสั่นสะเทือนทั่วโลก เช่น โรคระบาด ดังนั้นพวกเขาจะรู้สึกถึงผลกระทบที่รุนแรงกว่า และพวกเขามีช่วงเวลาในการฟื้นตัวที่ยากกว่า

“นั่นไม่ใช่แค่ความกังวลด้านมนุษยธรรม แต่เป็นความกังวลด้านเศรษกิจและความมั่นคงสำหรับพวกเราทุกคน”

ไบเดนกล่าวอีกว่า สหรัฐฯจะระดมเงินช่วยเหลือ 2 แสนล้านดอลลาร์ ผ่านกองทุนรัฐบาลกลางและการลงทุนของเอกชน ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง เพื่อช่วยจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการพัฒนาด้านสุขภาพทั่วโลก ความเท่าเทียมทางเพศ และโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล

ADVERTISMENT

“ผมต้องการสร้างความชัดเจน นี่ไม่ใช่ความช่วยเหลือหรือการกุศล แต่เป็นการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับทุกคน” ไบเดนกล่าว พร้อมเสริมว่า จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ เห็นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมของการเป็นพันธมิตรกับประชาธิปไตย

ไบเดนกล่าวว่า เงินเพิ่มเติมอีกหลายแสนดอลลาร์อาจมาจากธนาคารเพื่อการพัฒนาพหุภาคี สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และอื่น ๆ

ADVERTISMENT

“เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน” ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวในที่ประชุมว่า ยุโรปจะระดมเงิน 3 แสนล้านยูโร สำหรับโครงการดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อสร้างทางเลือกที่ยั่งยืนแทนที่โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน ซึ่ง “สี จิ้นผิง” ประธานาธิบดีจีน เปิดตัวเมื่อปี 2556

ผู้นำอิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น ยังได้พูดถึงแผนการของตัวเอง ซึ่งบางแผนได้ประกาศแยกออกไปแล้ว ขณะที่ “เอ็มมานูเอล มาครง” ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และ “บอริส จอห์นสัน” นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่ปรากฏตัวในที่ประชุม แต่ทั้งสองประเทศยืนยันจะเข้าร่วมโครงการด้วย

แผนการลงทุนของจีนนั้นเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและโครงการต่าง ๆ ในกว่า 100 ประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเส้นทางการค้าที่ทันสมัยจากเอเชียไปยังยุโรป

เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า แผนดังกล่าวให้ประโยชน์ที่จับต้องได้เพียงเล็กน้อยสำหรับประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมาก ทั้งยังเป็นกำดักให้ประเทศผู้รับเป็นหนี้ พร้อมกับเสริมด้วยว่าการลงทุนดังกล่าวเป็นประโยชน์แก่จีนมากกว่าประเทศอื่น ๆ