
“ไฟเซอร์” ผู้ผลิตยารายใหญ่ของโลกจากสหรัฐอเมริกา แถลงเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า จะหยุดค้นคว้ายาใหม่สำหรับโรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาล แต่ยังไม่สามารถหาวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดได้ สำหรับโรคดังกล่าว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อการทดสอบสารประกอบตัวหนึ่งซึ่งเป็นสารประกอบสำคัญสำหรับการคิดค้นตัวยาอัลไซเมอร์ เกิดล้มเหลวและไม่สามารถทำงานต่อได้
- เช็กผลเลือกตั้ง ผู้ว่ากทม ส.ก. ใครชนะ เรียลไทม์
- สรุปคะแนนเลือกตั้งผู้ว่า กทม. 100% ที่ 2 สุชัชวีร์ เฉือน วิโรจน์ 785 คะแนน
- ดร.เอ้ สุชัชวีร์ เปิดตัวภรรยา คนที่ 2 ลมใต้ปีกในสนามผู้ว่า กทม.
ในปี 2012 ไฟเซอร์จับมือกับ “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” ในการคิดค้นยาสำหรับอัลไซเมอร์ “bapineuzumab” โดยลงทุนเป็นจำนวนมหาศาล แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ
บริษัทประกาศเลย์ออฟพนักงาน 300 คน ภายหลังยุติการค้นคว้า 2 ตัวยา โดยเป็นพนักงานในโรงงานที่เคมบริดจ์ เมสซาชูเซส และคอนเน็กติคัท โดยระบุว่า ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อลงทุน R&D ด้านอื่นมากขึ้น
ทั้งนี้ ไฟเซอร์เผยแผนการที่จะริเริ่มกองทุน โดยมีจุดประสงค์เพื่อลงทุนในกองทุนยาด้านประสาทวิทยาภายนอกบริษัท
ขณะที่บริษัทคู่แข่งอื่นๆของไฟเซอร์ เช่น “แอสต้าเซเนก้า” “ไบโอเจน” “Eli Lily” ยังคงเดินหน้าวิจัยเกี่ยวกับยาต้านอัลไซเมอร์อยู่ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้เตือนว่า การวิจัยดังกล่าวค่อนข้างมีความเสี่ยงสูง