กลุ่มสิทธิมนุษยชนยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดสิงคโปร์ ขอให้จับกุม “โกตาบายา ราชปักษา” อดีตประธานาธิบดีศรีลังกา
วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 เอพีรายงานว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า ได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดของสิงคโปร์ เพื่อขอให้จับกุมอดีตประธานาธิบดีศรีลังกา “โกตาบายา ราชปักษา” ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงครามในช่วงสงครามกลางเมืองของศรีลังกา ซึ่งสิ้นสุดเมื่อปี 2552 โดยระหว่างนั้นเขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
โกตาบายา ราชปักษา ถูกขับออกจากตำแหน่งหลังเศรษฐกิจในประเทศล่มสลาย เขาได้หลบหนีไปสิงคโปร์เมื่อช่วงต้นเดือน
โครงการความจริงและความยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอทีเจพี) องค์กรที่รวบรวมหลักฐานซึ่งบริหารงานโดยมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรในแอฟริกาใต้ ระบุว่า ทนายความของไอทีเจพีได้ยื่นคำร้องเพื่อขอให้จับกุมโกตาบายาทันที
คำร้องดังกล่าวอ้างว่า โกตาบายาได้ละเมิดอนุสัญญาเจนีวาอย่างร้ายแรงในช่วงสงครามกลางเมือง และสิ่งเหล่านี้เป็นอาชญากรรมที่ต้องถูกดำเนินคดีภายในสิงคโปร์ ภายใต้เขตอำนาจศาลสากล
วิกฤตเศรษฐกิจของศรีลังกาทำให้ประชาชน 22 ล้านคนในประเทศประสบปัญหาขาดแคลนสิ่งของจำเป็น เช่น ยา เชื้อเพลิง และอาหาร การประท้วงที่ดำเนินมานานหลายเดือนพุ่งเป้าไปที่ตระกูลการเมืองอย่าง “ราชปักษา” ซึ่งปกครองประเทศมานานเกือบสองทศวรรษ
ไอทีเจพีเผยว่า การล่มสลายทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลศรีลังกาล้ม แต่วิกฤตในศรีลังกานั้นเชื่อมโยงกับการยกเว้นโทษเชิงโครงสร้างสำหรับอาชญากรรมระหว่างประเทศที่ร้ายแรง ซึ่งย้อนกลับไปได้กว่าสามทศวรรษหรือมากกว่านั้น
“การร้องเรียนนี้ไม่ได้เกี่ยวแค่การทุจริตและการจัดการเศรษฐกิจที่ผิดพลาด แต่ยังเป็นการรับผิดชอบต่ออาชญากรรมที่โหดร้าย”
สงครามกลางเมืองในศรีลังกาคร่าชีวิตผู้คนไป 100,000 ราย ตามการประมาณการขององค์การสหประชาชาติ แต่คาดว่าตัวเลขจริงจะสูงกว่านี้มาก ขณะที่รายงานจากคณะผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติระบุว่า พลเรือนชาวทมิฬที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์อย่างน้อย 40,000 รายถูกสังหารในเดือนสุดท้ายของการต่อสู้