คอลัมน์ เอชอาร์คอร์เนอร์
ธำรงศักดิ์ คงคาสวัสดิ์ http://tamrongsakk.blogspot.com
ผมมักจะได้รับคำถามเกี่ยวกับการลาออกจากในห้องอบรม หรืออีเมล์มาสอบถามอยู่บ่อยครั้ง ก็เลยขอรวบรวมคำถามและคำตอบทั้งหลายมาไว้ตรงนี้ เผื่อใครสนใจก็มาหาอ่านได้เลย หรือถ้าใครจะเพิ่มเติมคำถาม-คำตอบ แล้วนำมาต่อท้ายจากที่ผมเขียนไว้เพื่อเป็นการแชร์ความรู้และเป็นประโยชน์กับผู้สนใจก็ยินดีนะครับ
Q : หัวหน้าเรียกมาบอกให้เขียนใบลาออกจะทำยังไงดี
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
อยู่ที่ตัวเราแหละครับ ถ้าเราไม่อยากจะลาออกก็ไม่ต้องเขียน (และเซ็นชื่อใน) ใบลาออก เราก็ยังคงมีสถานะเป็นพนักงานต่อไป แต่ถ้าบริษัทอยากจะให้เราออกจากบริษัทจริง ๆ เขาก็ต้องแจ้งเลิกจ้าง พร้อมทั้งจ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน และค่าบอกกล่าวล่วงหน้ามาให้เรา
Q : ถ้าเรายื่นใบลาออกเอง จะได้รับค่าชดเชยเหมือนกับถูกเลิกจ้างหรือไม่
ถ้าลูกจ้างยื่นใบลาออกจะไม่ได้รับค่าชดเชยใด ๆ ครับ เนื่องจากเป็นความประสงค์จะลาออกของตัวลูกจ้างเอง
Q : หากบริษัทมีระเบียบเรื่องการเกษียณอายุ พนักงานยังคงต้องเขียนใบลาออกหรือไม่ และเมื่อเกษียณอายุจะได้รับค่าชดเชยหรือไม่
หากบริษัทมีระเบียบเรื่องการเกษียณอายุ พนักงานไม่ต้องเขียนใบลาออกครับ จะถือว่าพ้นสภาพจากการเป็นพนักงานเมื่อครบกำหนดเกษียณอายุตามระเบียบของบริษัทซึ่งบริษัทก็จะต้องจ่ายค่าชดเชยตามอายุงาน (ตามมาตรา 118 ของกฎหมายแรงงาน) ให้กับลูกจ้างอีกด้วยครับ
Q : หัวหน้าสามารถใช้อำนาจ (ของหัวหน้า) บังคับให้เราเขียนและเซ็นใบลาออกได้ไหม
ตอบเหมือนข้อ 1 คือ ถ้าเราไม่เขียนหรือไม่เซ็นใบลาออก ใครก็มาบังคับไม่ได้ครับ
Q : แต่ถ้าหัวหน้าบังคับให้เราเขียนใบลาออก แล้วเราก็ยอมเขียนและเซ็นใบลาออกให้หัวหน้าไปจะมีผลยังไง
ก็มีผลคือเราก็จะพ้นสภาพการเป็นพนักงานของบริษัทในวันที่เราระบุเอาไว้ในใบลาออก โดยบริษัทก็จะต้องจ่ายค่าจ้างให้เราถึงวันสุดท้ายที่เราทำงานครับ
Q : ถ้าหัวหน้าบังคับให้เราเขียนใบลาออก และเราก็เซ็นใบลาออกไปแล้ว เราจะไปฟ้องศาลแรงงานโดยอ้างว่าเราถูกผู้บริหารบีบบังคับ หรือกดดัน หรือข่มขู่เรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่เต็มใจได้หรือไม่
การลาออกเป็นการแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจ้างจากทางฝั่งลูกจ้าง เมื่อเซ็นใบลาออกไปแล้วก็เท่ากับว่าพนักงานแสดงเจตนาบอกเลิกสัญญาจ้างไปแล้ว หากพนักงานจะไปฟ้องศาลแรงงานว่าถูกข่มขู่จากนายจ้างก็จะต้องมีพยานหลักฐานที่แน่นหนา เพื่อทำการพิสูจน์ให้ศาลท่านเห็นได้ว่ามีการข่มขู่อย่างไร หนักหนาสาหัสยังไง ถ้าไม่เซ็นใบลาออกเราจะถูกประทุษร้ายหรือมีอันตรายถึงชีวิตยังไง ฯลฯ เพื่อให้ศาลท่านพิจารณา แต่ถ้าพนักงานจะไปฟ้องศาล โดยอ้างลอย ๆ ว่าถูกข่มขู่โดยไม่มีพยานหลักฐานใด ๆท่านลองคิดเองนะครับว่าจะชนะคดีหรือไม่
Q : หัวหน้าเรียกไปด่าแล้วพูดว่า”ถ้าไม่พอใจก็ลาออกไป” หรือ”คุณลาออกไปเถอะ ทำงานไปคุณก็ไม่มีวันก้าวหน้าหรอก” แล้วเราก็ไปเขียนใบลาออกโดยถือว่าเราถูกข่มขู่ให้ลาออกได้หรือไม่
อย่างที่ตอบไปแล้วว่าคำพูดเหล่านี้ไม่ใช่การข่มขู่หรือการปิดกั้นสิทธิไม่ให้พนักงานมาทำงาน ที่แสดงให้เห็นว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นการบอกจะเลิกจ้าง ดังนั้นถ้าพนักงานเขียนใบลาออกก็ถือว่าเป็นการสมัครใจที่จะลาออกเอง ไม่ใช่การถูกข่มขู่ครับ
Q : การยื่นใบลาออกจะต้องยื่นล่วงหน้า 30 วัน ตามระเบียบของบริษัทหรือไม่ ถ้าไม่ยื่นตามระเบียบของบริษัทจะมีความผิดหรือไม่ บริษัทจะมีสิทธิไม่จ่ายเงินเดือนงวดสุดท้ายได้หรือไม่
เมื่อลูกจ้างยื่นใบลาออกและระบุวันที่มีผลเอาไว้วันใด เมื่อถึงวันที่ระบุไว้ก็จะมีผลทันที ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาอนุญาตแต่อย่างใดครับ แต่หากลูกจ้างไม่ยื่นใบลาออกตามระเบียบของบริษัท แล้วการกระทำนั้นส่งผลทำให้บริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทมีสิทธิไปฟ้องศาลแรงงานว่าการที่ลูกจ้างฝ่าฝืนไม่ทำตามระเบียบการลาออกนั้น ทำให้บริษัทเสียหายด้านไหนบ้าง เช่น ระบบการทำงาน หรือผลประโยชน์ไปกี่บาทกี่สตางค์ เพื่อให้ศาลท่านวินิจฉัยแต่อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีสิทธิไปหักเงินเดือนงวดสุดท้าย โดยอ้างว่าลูกจ้างทำผิดกฎระเบียบไม่ได้ครับ
ดังนั้นพูดง่าย ๆ คือ เมื่อพนักงานยื่นใบลาออกก็จะมีผลพ้นสภาพในวันที่ระบุเอาไว้ในใบลาออกทันที แม้การยื่นใบลาออกของลูกจ้างไม่เป็นไปตามกฎระเบียบของบริษัทก็ตาม แต่ถามว่าพนักงานที่ดีควรยื่นใบลาออกวันนี้ให้มีผลในวันพรุ่งนี้ทันทีหรือไม่ล่ะ และการลาออกก็ควรจะลาออกด้วยความรู้สึกที่ดีต่อกันจะดีกว่าหรือไม่ก็เท่านั้นแหละครับ
ผมจะนำคำถาม-ตอบอีก 12 ข้อมาเล่าให้ฟังกันอีกทีนะครับ
โปรดติดตามตอนต่อไป
