กรมการค้าภายใน รับลูก “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ หลังสั่งการให้ติดตามดูแลสินค้าเพิ่มรายได้ ลดค่าครองชีพ สร้างโอกาสให้ประชาชน ย้ำยังไม่มีคำสั่งพิเศษในการดูแลบริหารจัดการสินค้าเกษตร พืชเศรษฐกิจสำคัญ
วันที่ 8 กันยายน 2566 นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2566 หลังจากได้มีการหารือร่วมกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แบบไม่เป็นทางการ เบื้องต้นได้มีการสั่งการให้กรมการค้าภายในติดตามดูแลในเรื่องของการเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร ลดค่าครองชีพ และเพิ่มโอกาสให้กับประชาชน ซึ่งภายใต้การกำกับดูแล การทำงานของกระทรวงพาณิชย์ มีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ต้องมีการบริหารจัดการให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ทั้งผู้ประกอบการและประชาชนผู้บริโภค
- เปิด 10 อันดับที่ดินต่างจังหวัด แพงสุดในประเทศไทย
- ธุรกิจถอยสิ้นยุคกัญชาเสรี จ่อปิดหมื่นร้าน-สินค้าโบกมือลา
- เปิดค่าซ่อม “รถอีวี vs รถใช้น้ำมัน” แพงกว่ากันเท่าไร
ในขณะที่การบริหารจัดการสินค้าเกษตร พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เวลานี้ยังไม่ได้มีคำสั่งใด ๆ เป็นพิเศษว่าจะใช้มาตรการใดเข้ามาช่วยดูแล แต่ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในพิจารณาดูแลมาตรการตามความเหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาไปก่อน ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดของมาตรการต่าง ๆ อีกครั้ง โดยมีการประชุมหารือกับคณะกรรมการของแต่ละพืชที่เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าทั่วไปส่วนใหญ่ค่อนข้างทรงตัว สินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าวเปลือกราคาดีเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น ข้าวหอมมะลิ ราคา 15,800 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกปทุมธานี ราคา 13,700 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 12,400 บาทต่อตัน ข้าวเปลือกเหนียว ราคา 13,300 บาทต่อตัน ซึ่งข้าวเหนียวนั้นเริ่มนำออกมาระบายมากขึ้น หลังจากที่เก็บไว้ในยุ่งฉาง จึงมีผลต่อระดับราคา
ส่วนราคามันสําปะหลัง ราคากิโลกรัมละ 3.40 บาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ราคาลดลงเล็กน้อย กิโลกรัมละ 10.55 บาท ปาล์มน้ำมันราคากิโลกรัมละ 5.50 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดอยู่ที่ขวดละ 45.56 บาท โดยเป็นราคาที่ถือว่าสอดคล้องกับต้นทุนวัตถุดิบในตลาดโลก และอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องก็มีการติดตามสถานการณ์การส่งออก การผลิต การบริโภค พลังงาน ของราคาน้ำมันปาล์มอย่างใกล้ชิด มาตรการ บี7 ก็ยังใช้มาตรการเดิมจนถึงสิ้นปี 2566
ราคาเนื้อหมูราคาดีขึ้นเล็กน้อย เฉลี่ยอยู่ที่ กิโลกรัมละ 135-137 บาท เนื้อไก่ส่วนใหญ่ราคาลดลงจากสัปดาห์ก่อน โดยเนื้อน่องราคากิโลกรัมละ 80.31 บาท เนื้อสะโพกกิโลกรัมละ 82.13 บาท เนื้ออบกิโลกรัมละ 76.75 บาท ไข่ไก่ ราคายังทรงตัวอยู่ที่ฟองละ 4.32 บาท ส่วนราคาผัก ราคาปรับลดลงเมื่อเทียบช่วงที่ผ่านมา เช่น คะน้า 33.20 บาทต่อกิโลกรัม ถั่วฟักยาว 45 บาทต่อกิโลกรัม กะหล่ำปลี 31.20 บาทต่อกิโลกรัม ผักกาดขาว 34.50 บาทต่อกิโลกรัม ผักบุ้งจีน 30.20 บาทต่อกิโลกรัม
ปุ๋ยราคาลง
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า สถานการณ์ต้นทุนการผลิตสำคัญของเกษตรกร พบว่าปุ๋ยเคมีราคายังทรงตัว โดยราคาต่ำกว่ากลางปีที่แล้วอยู่มาก แม่ปุ๋ยยูเรียต่ำกว่ากลางปีที่แล้ว 48% แม่ปุ๋ยฟอสเฟตต่ำกว่า 39% แม่ปุ๋ยโพแทสต่ำกว่า 42% ปุ๋ยสูตร 21-0-0 ต่ำกว่า 49% ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ต่ำกว่า 32% ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ต่ำกว่า 27%
โดยคาดว่าแนวโน้มราคาน่าจะทรงตัวและลดลงในระยะต่อไป เพราะราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยอยู่ที่ 11 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ต่ำกว่า 2 ปีที่ผ่านมา และความต้องการใช้ปุ๋ยในตลาดโลก เช่น จีน สหรัฐ ลดลง เพราะพ้นฤดูกาลเพาะปลูก และในไทยเองก็เริ่มชะลอ เพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าว
ส่วนยาป้องกันและปราบศัตรูพืชก็ปรับลดลงต่อเนื่องเช่นเดียวกัน โดยยาฆ่าหญ้า ไกลโฟเสต ลด 29% กลูโฟซิเนต ลด 25% ยาฆ่าแมลง อะบาเมกติน ลด 34% ยารักษาโรคพืช โพรพิเนบ ลด 3% และคาดว่าแนวโน้มราคาน่าจะลดลงอีก เพราะปริมาณสต๊อกโลกมีมาก ทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น จีน อินเดีย ปรับลดราคาลงเพื่อระบายสต๊อก
ขณะที่อาหารสัตว์ทรงตัว โดยแนวโน้มลดลงจากวัตถุดิบการผลิตสำคัญเริ่มชะลอตัวลง เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ราคาเริ่มลดลงแล้ว โดยราคาหน้าโรงงาน กก.ละ 11.34 บาท และผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาด ข้าวสาลีราคาเริ่มลดลง กากถั่วเหลืองก็เริ่มลดลง ครึ่งปีแรกราคาเฉลี่ย 22 บาท/กก. ขณะนี้ 20 บาท/กก. ที่สำคัญ กรมยังไม่อนุมัติให้ผู้ผลิตรายใดปรับขึ้นราคา แต่ที่ราคาดูเหมือนสูงขึ้น เป็นเพราะมีการปรับลดส่วนลดการค้าลงมา
หามาตรการช่วยเหลือผู้เลี้ยงไก่
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่อย่างใกล้ชิด พบว่าผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และไข่ไก่ฟองใหญ่มีมากขึ้น ราคายังทรงตัว และขณะนี้ยังมีมาตรการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยง ทั้งการเชื่อมโยงอาหาร และชดเชยดอกเบี้ย 3% ส่วนกุ้งก็มีมาตรการช่วยเหลือด้วยการชดเชยราคาและช่วยค่าใช้จ่ายด้านการตลาด เป้า 5,000 ตัน ขณะนี้ช่วยไปแล้ว 3,200 ตัน หรือ 66%
มังคุดคลี่คลาย
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้มังคุดภาคใต้อยู่ในช่วงปลายฤดูกาลผลิตแล้ว เหลืออีกประมาณ 10% ก็หมด ซึ่งในช่วงโค้งสุดท้าย กรมได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้ออย่างต่อเนื่อง และจะนำไประบายผ่านโมบายพาณิชย์ 100 จุด และห้างท้องถิ่น 120 สาขาทั่วประเทศ โดยราคาในกลุ่มประมูล เกรดมันใหญ่ 38.88-55.99 บาท/กก. มันเล็ก 26.88-30.89 บาท/กก. ลายใหญ่ 28.89-34.19 บาท/กก. ตกไซซ์ ดอก 17-22.99 บาท/กก. และดำ 13-15.55 บาท/กก.
ส่วนลำไย ผลผลิตออกแล้ว 93% ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เกรด AA 32-40 บาท/กก. รูดร่วง 28 บาท/กก. ลองกองออกแล้ว 30-40% เกรดสูงราคา 30-40 บาท/กก. เกรดล่าง 15-20 บาท/กก. ซึ่งจะเริ่มออกมาตั้งแต่สัปดาห์หน้า โดยกรมได้ประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อแล้ว
