ครบ 25 ปีพอดีที่ “ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น” เข้าไปลงทุนที่ประเทศเวียดนามแบบครบวงจร ด้วยธุรกิจโรงงานอาหารสัตว์ ฟาร์ม และโรงงานอาหารแปรรูป คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยปัจจุบันอาณาจักร CP เวียดนาม ประกอบไปด้วย
1) ธุรกิจสัตว์บก มีโรงงานอาหารสัตว์บก 7 แห่ง ฟาร์มเลี้ยงสัตว์ และโรงงานแปรรูป 2) ธุรกิจสัตว์น้ำ มีโรงงานอาหารสัตว์น้ำ 3 แห่ง ฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำ และโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำ 2 แห่ง และ 3) ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป มีโรงงานอาหารแปรรูป 3 แห่ง ธุรกิจค้าปลีก ซีพี เฟรชมาร์ท ร้านสุกรซีพี และธุรกิจร้านอาหารห้าดาว ทั้งหมดนี้มีการจ้างแรงงานรวมกว่า 22,000 คน ในจำนวนนี้เป็นคนเวียดนามถึง 21,000 คน เป็นคนไทยเพียง 225 คน
ในปี 2560 ซี.พี.เวียดนามฯสามารถทำรายได้ 1,947 ล้านเหรียญกับผลผลิตหมู 5 ล้านตัว ไข่ไก่ 200 ล้านฟอง ผลิตภัณฑ์เนื้อไก่ 80,000 ตัน และผลิตและส่งออกสัตว์น้ำ 20,000 ตัน มีการส่งออกไปยังญี่ปุ่น, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, จีน, ฮ่องกง และยุโรป
ฐานส่งออกด้วย FTA
นายมนตรี สุวรรณโพธิ์ศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.เวียดนาม คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ปี 2561 CP ตั้งเป้าหมายรายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 12% จากปี 2560
มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,947 ล้านเหรียญ เฉพาะ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2561) ธุรกิจของ CP ในเวียดนามทำรายได้อยู่ที่ 1,891 ล้านเหรียญ เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากธุรกิจฟาร์ม 60% อาหารสัตว์ 33% และอาหารแปรรูป 7% ในส่วนของฟาร์มมีกำลังการผลิตทั้งสัตว์บกและสัตว์น้ำ แบ่งเป็นหมูขุน 6.5 ล้านตัว, ไก่เนื้อ 66 ล้านตัว, ไข่ไก่ 750 ล้านฟอง, ปลา 45,800 ตัน, กุ้ง 6,500 ตัน และกุ้งแช่แข็ง 11,200 ล้านตัว
การลงทุนของ CP สเต็ปต่อไปจะต้องพิจารณาจากอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เวียดนาม 6.5% รายได้ประชากร/หัว/ปีประมาณ 2,629 เหรียญ โดยเวียดนามมีประชากร 97 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 1% อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 31 ปี เท่ากับประชากรส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาว ทำให้มีความต้องการบริโภคสูงขึ้น และยังเป็นแหล่งที่มีแรงงานจำนวนมาก มีค่าแรงงานต่ำเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียนอื่น ภูมิประเทศมีชายฝั่งทะเลยาว จึงมีการพัฒนาท่าเรือและมีทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ มีการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่าง ๆ รวมถึง CPTPP ดังนั้นCP จะใช้เวียดนามเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกไปยังกลุ่มประเทศข้อตกลงเขตค้าเสรีต่าง ๆ
ตั้งคอมเพล็กซ์ที่บิ่นห์เฟื้อก
สำหรับโครงการสำคัญที่จะเกิดขึ้นในเวียดนามปีหน้าก็คือ โรงงานผลิตไก่ครบวงจร ทั้งอาหารสัตว์ ฟาร์ม และอาหารแปรรูปที่ “จังหวัดบิ่นห์เฟื้อก” ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเวียดนาม โดยตัวโรงงานจะตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมพื้นที่ 156 ไร่ ใช้งบประมาณลงทุน 200-240 ล้านเหรียญ เริ่มดำเนินการก่อสร้างเฟสแรกในปี 2561 (2019) และคาดว่า
จะสำเร็จและเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 1 ปี 2562 โรงงานแห่งนี้จะสามารถผลิตไก่ได้ 1 ล้านตัว/สัปดาห์ หรือ 50 ล้านตัว/ปี และในส่วนของโรงงานแปรรูปจะมีกำลังผลิต 36,000 ตัน/ปี และพร้อมที่จะขยายต่อในเฟสที่ 2ภายใน 2-3 ปี หากผลดำเนินการเฟสแรกประสบความสำเร็จ
“โรงงานครบวงจรแห่งนี้ถือว่ามีความทันสมัยที่สุดในอาเซียน โดยจะใช้ระบบฟาร์มปิดทั้งหมด เริ่มเลี้ยงตั้งแต่ไก่ปู่ย่าพันธุ์มาจนถึงไก่กระทง โรงเพาะฟัก ส่วนโรงงานอาหารสัตว์แยกออกไปต่างหาก แต่จะใช้ออโต้ไลน์ทั้งหมด และที่สำคัญมีการวางระบบตามกฎหมายเวียดนามที่จะ zoning ไม่ให้มีโรงงานอื่นที่ห่างจากโรงงาน CP ในรัศมี 30 กม. ที่เราลงทุนตั้งโรงงานในจังหวัดนี้ก็เพราะบิ่นห์เฟื้อกเป็นจังหวัดเพื่อการเกษตรห่างจากโฮจิมินห์ 100 กม.ติดพรมแดนเขมร” นายมนตรีกล่าว
นอกจากนี้ CP ยังมีแผนลงทุนโรงงานแปรรูปสุกรเพื่อส่งออก เงินลงทุน 20 ล้านเหรียญ คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จปี 2563
ในระยะถัดไปมีแผนลงทุนโรงงานอาหารสัตว์อีกประมาณปีละ 1-2 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 7 โรง กำลังการผลิตรวม 4 ล้านตัน/ปี เพื่อจำหน่ายแก่ลูกค้าและใช้ในฟาร์มของ CP เอง
ส่วนในกลุ่มธุรกิจสัตว์น้ำ CP ตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาการผลิตกุ้ง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลเวียดนามที่ต้องการให้ประเทศส่งออกกุ้งเป็นอันดับ 1 ของโลก หรือประมาณ 1 ล้านตัน/ปีภายในปี 2568 จากปัจจุบันส่งออกเป็นอันดับ 3
ที่ 330,000 ตัน/ปี ในจำนวนนี้ CP สามารถผลิตกุ้งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดประมาณ 500,000 ตัน/ปี โดยปี 2562 มีแผนขยายโรงเพาะฟักกุ้งอีก 50,000 ล้านตัว/ปี และขยายโรงงานผลิตอาหารกุ้งเพิ่มอีก 200,000 ตัน/ปี จากปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 300,000 ตัน/ปี
รุกอาหารสำเร็จรูปชิงแชร์ 40%
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารแปรรูป กล่าวถึงภาพรวมตลาดอาหารในเวียดนามมีการเติบโตปีละ 20% โดยในปีที่ผ่านมาตลาดนี้มีมูลค่า 173,000 ล้านเหรียญ เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการเพิ่มขึ้นของประชากรวัยทำงาน เทรนด์ธุรกิจอาหารเติบโตได้ดี รวมถึงจำนวนร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน CP มีส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์ไส้กรอก 25% แต่มีเป้าหมายจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในปีหน้า โดยสินค้าตัวนี้ CP ยังเป็นเบอร์ 2 รองจาก VISSANแบรนด์ที่ผลิตโดยบริษัทเวียดนาม
ด้านการผลิตของโรงงานอาหารแปรรูป ซี.พี. ฮานอย ฟู้ด โปรเซสซิ่ง แฟกตอรี่ ปี 2562 มีแผนขยายกำลังการผลิตไส้กรอกจาก 900 ตัน/เดือนเป็น 1,200 ตัน/เดือน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการส่งออกผลิตภัณฑ์ไส้กรอก หลังจากที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากตลาดญี่ปุ่น ส่วนโรงงานแปรรูปไก่มีกำลังการผลิตไก่ 60,000 ตัว/วัน แต่ยังใช้กำลังการผลิตแค่ 50% หรือ 30,000 ตัว/วัน มีแผนจะขยายกำลังการผลิตเป็น 40,000 ตัว/วันในปีหน้า และจะขยายให้ครบ 60,000 ตัวภายใน 2 ปีข้างหน้านี้
“ทิศทางตลาดอาหาร ready meal มีโอกาสจะขยายตัวมากขึ้น เราจึงได้มีแผนจะลอนช์สินค้าใหม่ในกลุ่มนี้ออกมา 50 SKU ซึ่งในจำนวนนี้ 35 เมนูเป็นกลุ่มติ่มซำ ขนมจีบ ซาลาเปา และที่เหลือจะเป็นอาหารกล่อง ซึ่งได้มีการตั้งโรงงานผลิตทางตอนใต้ มีกำลังการผลิตประมาณ 2,000 ตัน โดยในปีแรกบริษัทคาดว่าจะมียอดขายในกลุ่มนี้ประมาณ 1,500 ตัน” นายสุพัฒน์กล่าว
ส่วนกลยุทธ์การทำการตลาดในเวียดนามนั้น จะมุ่งเน้นการกระจายสินค้าเข้าร้านโชห่วยให้มากที่สุด โดยปัจจุบันจำหน่ายผ่านร้านโชห่วยประมาณ 70% และโมเดิร์นเทรด 30% เนื่องจากจำนวนร้านโชห่วยยังมีมากถึง 200,000-300,000 แห่งเทียบกับจำนวนร้านโมเดิร์นเทรดที่มี 5,000 จุด ในส่วนร้านซีพี เฟรชมาร์ทมีอยู่ประมาณ 8 สาขาในปัจจุบัน ล่าสุดทางบริษัทมีแผนจะพัฒนาและปรับปรุงแบรนด์ (รีโพซิชันนิ่ง)
และเพิ่มจำนวนสาขาอีก 10 สาขารวมเป็น 18 สาขา ซึ่งจะเป็นการลงทุนเองทั้งหมดจากเงินประมาณ 500,000-800,000 บาท/สาขา
สำหรับแนวทางในการพัฒนาแบรนด์ “กลุ่มซุ้ม 5 ดาว” นั้น ทางบริษัทวางกลยุทธ์ให้ธุรกิจอาหารที่มีความสด-ใหม่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคและเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับ “เถ้าแก่เล็ก” โดยปัจจุบันมีจำนวน 650 สาขา ซึ่งในจำนวนนี้ 90% เป็นเถ้าแก่เล็ก ในปีหน้าตั้งเป้าเพิ่มเป็น 800 สาขา
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอาหารของ CP ในเวียดนามยังมีคู่แข่งสำคัญ ทั้งซีเจ มิสซาน วิสซาน จึงเป็นตลาดที่ไม่ง่าย จำเป็นต้องวางแผนศึกษาและพัฒนาไฟติ้งแบรนด์ใหม่ ๆ ออกมาแข่งขัน
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!
