มติ กบง. จ่อกู้ 2 หมื่นล้านพยุงกองทุนน้ำมัน อุ้มดีเซลต่อ

ราคาน้ำมัน

“สุพัฒนพงษ์” เผยมติ กบง. ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ควักเงินกองทุนน้ำมันอุ้มอีก 5,000 ล้านบาท เตรียมกลับไปใช้สูตรเดิม B7 B10 B20 ยกเลิก B6 เริ่ม 1 พ.ย. จ่อกู้ 20,000 ล้านบาทเพิ่มเติมเข้ากองทุนฯ หลังสถานะเหลือแค่ 9,000 ล้านบาท ถกคลังหามาตรการเสริมมีลุ้นลดภาษีสรรพสามิต

วันที่ 20 ตุลาคม 2564 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงผลกระทบต่อภาคประชาชน หลังราคาน้ำมันยังคงมีทิศทางที่ผันผวน จึงมีการปรับสูตรน้ำมันไปใช้สูตรเดิม 3 เกรด คือ B7 B10 และ B20 และยกเลิก B6 เพื่อสนับสนุนการใช้ไบโอดีเซล ขณะเดียวกันจะตรึงราคาน้ำมันกลุ่มดีเซล ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร ต่อไป

โดยทั้งการปรับสูตรน้ำมันทั้ง 3 เกรด และมาตรการช่วยเหลือการตรึงราคาครั้งนี้จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 พ.ย. 2564 ซึ่งจะใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีกประมาณ 5,000 ล้านบาท ที่ขณะนี้สถานะเงินกองทุนเหลืออยู่ประมาณ 9,207 ล้านบาท หากเงินกองทุน ไม่พอจะใช้สิทธิ์ พ.ร.บ. กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อขอกู้เพิ่ม 20,000 ล้านบาท และจะหาช่องทางอื่นเข้ามาเพิ่มเติมหากยังไม่พอ ทั้งนี้ ได้หารือกับทางกระทรวงการคลัง ถึงมาตรการอื่น ๆ ที่จะเข้ามาเสริมได้อีกหรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม ได้ประเมินเบื้องต้นเงินกองทุนฯที่เหลือ 9,207 ล้านบาท และที่จะกู้เพิ่ม 20,000 ล้านบาท น่าจะประคับประคองไปได้ช่วงระยะหนึ่งหรือ 3-4 เดือน ในภาวะที่ราคาน้ำมัน 85 เหรียญ/บาเรล แต่ก็คาดว่าราคาน้ำมันจะทยอยอ่อนตัวลง ทั้งนี้ทั้งนั้นราคาก็อาจเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

หากในกรณีราคาน้ำมันดิบดูไบเกิน 87.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล หรือสถานะภาพกองทุนน้ำมันไม่เพียงพอสำหรับการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตรได้ จะประสานกระทรวงการคลังเพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตเป็นลำดับต่อไป

“ย้ำว่ารัฐทำเต็มที่มอบหมายนโยบายกระทรวงที่เกี่ยวข้องมาช่วยประชาชนทั้งตรึงราคาน้ำมัน ถ้าน้ำมันแตะไปถึง 87.5 เหรียญ/บาเรล 3 กลุ่มดีเซล เราต้องควักเงินจากกองทุนมาช่วยประมาณ 5,000 ล้าน เราจึงตรึงไปก่อน แต่ถ้าน้ำมันลงก็ต้องปรับราคาลงทันที และถ้าน้ำมันสูงขึ้นเรื่อย ๆ เงินกองทุนติดลบ ก็อาจมีมาตรการลดภาษีสรรพสามิตได้ แต่โดยหลักคือเราจะตรึงไว้ที่ 30 บาท/ลิตร

นอกจากนี้เรายังตรึงราคา LPG อย่างน้อยก็ถึงสิ้นปี 2564 และยาวถึง ม.ค. 2575 ในราคา 318 บาท/ถัง 15 กก. ขณะเดียวกันเราก็ตรึงค่าไฟฟ้าอยู่ สถานการณ์ตอนนี้คือเราจำเป็นต้องนำเข้าแก๊สธรรมชาติ 20% อาจไปถึง 30% ด้วย เราต้องประหยัดพลังงาน เดิมแก๊สเราพอแต่ตอนนี้มันถดถอยลงด้วยการใช้งานกว่า 30 ปีจึงต้องนำเข้า เช่นเดียวกับ LPG เราพยายามดูแลเต็มที่ทุกตัวเรามีจุดตรึงของเราทั้งแก๊ส ไฟฟ้า น้ำมัน”

อย่างไรก็ตาม มติที่ประชุมยังพิจารณาปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซล ให้ส่วนต่างราคาขายปลีกของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลเป็นไปตามกำหนด ให้ส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาอยู่ที่ 0.15 บาทต่อลิตร และส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 กับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 อยู่ที่ 0.25 บาทต่อลิตร

โดยยังคงค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร และใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการบริหารจัดการอัตราเงินกองทุนฯเพื่อให้ค่าการตลาดของน้ำมันเชื้อเพลิงกลุ่มดีเซลแต่ละชนิดไม่เกิน 1.40 บาท/ลิตร โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2564 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบยังคงผันผวนหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขภาคอุตสาหกรรมสหรัฐจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจากการเตรียมเปิดประเทศในหลายประเทศ การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ วิกฤตการด้านก๊าซธรรมชาติ เป็นต้น