หุ้น-การเงิน

คนละครึ่งเฟส5 เริ่มใช้เงิน 800 บาท 1 ก.ย. เฉียด 8 ล้านคน รีบกดรับสิทธิ

คลัง เผย คนละครึ่งเฟส 5 เริ่มใช้เงิน 800 บาท 1 ก.ย.นี้ เร่ง 7.97 ล้านคน กดยืนยันรับสิทธิ และใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 14 วัน ก่อนถูกตัดสิทธิ พร้อมโครงการเพิ่มกำลังซื้อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเริ่ม ก.ย. 65  

วันที่ 29 สิงหาคม 2565 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ประชาชนจะเริ่มใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ได้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 ถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 โดยรัฐจะสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ ตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตราร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ

ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุด ณ วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม 2565 เวลา 15.00 น. มีประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการ เฟส 4 กดยืนยันสิทธิเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 5 แล้วจำนวน 18.30 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ของจำนวนประชาชนรายเดิม ทั้งสิ้นจำนวน 26.27 ล้านราย

“ขอเชิญชวนให้ผู้ที่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิอีกจำนวนประมาณ 7.97 ล้านราย เร่งกดยืนยันสิทธิล่วงหน้าได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ผ่าน G-Wallet แบรนเนอร์โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เพื่อลดความแออัดของการใช้งานแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ในวันเริ่มการใช้จ่ายวันแรกในวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 ที่จะถึงนี้ รวมถึงหากไม่ใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันพุธที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. จะถูกตัดสิทธิ”

สำหรับประชาชนรายใหม่ที่ไม่เคยใช้สิทธิโครงการ เฟส 4 ที่ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมครบจำนวน 2.30 แสนรายแล้วนั้น โฆษกกระทรวงการคลังย้ำว่า ประชาชนรายใหม่ที่ได้รับสิทธิแต่ยังไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือยังไม่เคยทำธุรกรรมผ่านแอปพลิเคชั่น Krungthai NEXT ซึ่งต้องผ่านการยืนยันตัวตนกับธนาคารกรุงไทย จะต้องยืนยันตัวตนก่อนการใช้สิทธิครั้งแรก

โดยจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนมายืนยันตัวตนผ่านตู้เอทีเอ็มสีเทาของธนาคารกรุงไทย หรือ ณ ธนาคารกรุงไทยสาขาใดก็ได้ จึงจะสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ และเนื่องจากขณะนี้ประชาชนรายใหม่ได้รับการแจ้งยืนยันสิทธิทางข้อความสั้น (SMS) หรือข้อความผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ครบถ้วนแล้วทุกราย ดังนั้น ประชาชนรายใหม่ดังกล่าวจะต้องใช้จ่ายครั้งแรกผ่านเป๋าตังค์ภายในวันพุธที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ

สำหรับความคืบหน้าการลงทะเบียนผู้ประกอบการร้านค้านั้น ณ วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ประกอบการร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมสะสมแล้วทั้งสิ้น 401,962 ร้านค้า ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านค้าที่มีคุณสมบัติตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด ยังสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 5 ได้อย่างต่อเนื่อง จนกว่ากระทรวงการคลังจะปิดรับสมัคร

“ผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มยังสามารถเลือกเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 5 ได้หนึ่งราย ผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงินได้ตั้งแต่เวลา 06.00-23.00 น. ซึ่ง ณ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการฟู้ดดีลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่ได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการ ระยะที่ 5 เพิ่มเติมอีก 1 ราย รวมเป็นจำนวน 5 ราย ได้แก่ ช้อปปี้ฟู้ด ไลน์แมน แกร็บฟู้ด ฟู้ดแพนด้า และทรูฟู้ด”

โฆษกกระทรวงการคลังยังกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 จะเริ่มให้ผู้มีสิทธิได้ใช้จ่ายระหว่างวันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565 ถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565 เช่นเดียวกัน โดยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จะได้รับเงินช่วยเหลือ ค่าซื้อสินค้าจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นและค่าซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5

ทั้งนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อเดือน (กรณีวงเงินคงเหลือในเดือนใดจะไม่มีการสะสมไปในเดือนถัดไป) รวมทั้งสิ้น 400 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ โดยสามารถตรวจสอบสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 ได้ทาง https://เพิ่มกำลังซื้อ.คนละครึ่ง.com