คอลัมน์ : สถานีลงทุน
ปีนี้ราคาทองในประเทศปรับตัวขึ้นทำ All-time High อย่างต่อเนื่อง โดยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 8 ครั้ง ถ้าดูจากไทม์ไลน์การปรับขึ้นของราคาทองในประเทศเริ่มมาร้อนแรงตั้งแต่วันเสาร์ที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากวันที่ 9 กุมภาพันธ์ราคาทองแท่งในประเทศแตะ 34,550 บาท
และในสัปดาห์ปลายเดือนกุมภาพันธ์ค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม ราคาทองในประเทศสามารถทะลุ 35,000 บาท และราคาขายออกอยู่ที่ 35,200 บาท
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ไทย และหลายชาติ ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
และสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงไม่หยุดจนทะลุ 36,000 บาทในที่สุด ภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์
ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรง มาจากราคาทองตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นแรงอย่างต่อเนื่องราว 100 ดอลลาร์ ภายในเวลา 3 วัน สำหรับปัจจัยที่ขับเคลื่อนราคาทองคำตลาดโลกมาจากการที่ข้อมูลภาคการผลิตและภาคการบริการของสหรัฐ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐออกมาอ่อนแอและต่ำกว่าตลาดคาด ทำให้ตลาดมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเร็วกว่าเฟดที่คาดการณ์ไว้ในช่วงประมาณไตรมาส 3 มุมมองของตลาดคาดเฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิถุนายน
ปัจจัยหนุนอื่น ๆ เป็นเรื่องของความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังช่วยหนุนราคาทองคำ ไม่ว่าจะเป็นสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่เข้าสู่ปีที่ 3 ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง สงครามอิสราเอล-ฮามาสย่างเข้าสู่เดือนที่ 5 และวิกฤตทะเลแดง กระแสลดการพึ่งพาเงินดอลลาร์ที่ทำให้ธนาคารกลางเข้าซื้อทองเกิน 1,000 ตันติดต่อกันมา 2 ปี
ส่วนเงินบาทก็มีผลกระทบกับราคาทองในประเทศปีนี้อย่างมีนัยสำคัญ เงินบาทล่าสุดปีนี้อ่อนค่าลง 1.40 บาท ซึ่งก็มีผลบวกกับราคาทองในประเทศถึง 1,300 บาท ซึ่งเงินบาทเคยอ่อนค่าลงทะลุ 36 บาท และมีการอ่อนค่ามากที่สุดถึง 1.60 บาท มีผลบวกกับราคาทองในประเทศถึง 1,500 บาท
เชื่อว่าทิศทางราคาทองคำในระยะยาวยังเป็นขาขึ้น โดยให้เป้าหมายของราคาทองตลาดโลกปีนี้ที่ 2,200 ดอลลาร์ ราคาทองแท่งในประเทศ 37,000 บาท
