CPAXT ปี 2567 กำไร 10,837 ล้านบาท เปิด 5 กลยุทธ์ปี’68 ดันยอดโตต่อ

CPAXT CP AXTRA ซีพี แอ็กซ์ตร้า

CPAXT เปิดผลประกอบการปี 2567 รายได้รวม 5.12 แสนล้านบาท กำไรกว่า 1 หมื่นล้านบาท จากการเติบโตของยอดขายค้าปลีก-ค้าส่ง-Omnichannel พร้อมเคาะปันผล รวม 0.71 บาทต่อหุ้น ด้านผู้บริหาร เปิด 5 กลยุทธ์ ดันยอดปี 2568 โตต่อเนื่อง ทั้งช่องทางขาย-สินค้า Exclusive Brand-พื้นที่เช่า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CPAXT) เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2567 โดยมีรายได้รวม 512,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22,093 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิ 10,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.5% เมื่อเทียบกับปี 2566

สำหรับรายได้ในปี 2567 ของ CPAXT ประกอบด้วย

  • รายได้กลุ่มธุรกิจค้าส่ง 273,491 ล้านบาท
  • รายได้กลุ่มธุรกิจค้าปลีก 215,370 ล้านบาท
  • รายได้ค่าเช่าและรายได้จากการให้บริการศูนย์การค้า 14,321 ล้านบาท

CPAXT ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตัวเลขรายได้ดังกล่าว เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นของทั้งกลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก โดยเฉพาะจากกลุ่มสินค้าอาหารสด นอกจากนี้การขาย Omnichannel ของบริษัท ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้

โดยมีสัดส่วนรายได้ถึง 18% ของยอดขายสินค้าทั้งหมด มาจากการที่บริษัทเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม พร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI ตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีค้าปลีก (Retail Tech)

ADVERTISMENT

นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา สะท้อนศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง และความสามารถในการขยายตัวในทุกมิติ โดยบริษัทตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายและกำไรต่อเนื่อง ในปี 2568 ผ่านกลยุทธ์หลัก ได้แก่

การสร้างการเติบโตทุกช่องทางจำหน่าย ผ่านการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของยอดขายในสาขาเดิม (SSSG) และการเพิ่มยอดขาย Omnichannel ทั้งการขายผ่านแพลตฟอร์มและทีมขายนอกร้าน โดยบริษัทเดินหน้าขยายพื้นที่ให้บริการ จากการใช้จุดแข็งของเครือข่ายสาขาทั้งธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกกว่า 2,600 แห่งทั่วประเทศ

ADVERTISMENT

การเป็นผู้นำสินค้าอาหารสดของไทย ด้วยความหลากหลายของสินค้าอาหารสดกว่า 7,000 รายการ จากทั้งในประเทศและแหล่งผลิตชั้นนำทั่วทุกมุมโลก ผ่านการผนึกกำลังสรรหาสินค้าที่มีความหลากหลาย พร้อมต่อยอดอาหารพร้อมปรุง-พร้อมทาน (RTC-RTE) เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและผู้ประกอบการในราคาที่คุ้มค่า

การเพิ่มกำไรจากสินค้า Private Label และกลุ่มสินค้าที่สร้างผลกำไรดี โดยบริษัทมุ่งต่อยอดสินค้า Exclusive Brand ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัสเท่านั้น (ONLY AT Makro & Lotus’s) เพื่อเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งในตลาด นอกจากนี้ ยังมุ่งพัฒนาสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำไรขั้นต้นสูง

การเพิ่มรายได้จากพื้นที่ศูนย์การค้าและการพัฒนามอลล์ สู่ SMART Community Center ด้วยการปรับรูปลักษณ์มอลล์ให้ทันสมัย ควบคู่การหาผู้เช่าที่สอดคล้องกับความต้องการและวิถีชีวิตของผู้คนในแต่ละพื้นที่

การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกด้วย AI เพื่อเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จึงสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ พร้อมทั้งใช้ AI ในการพัฒนากระบวนการทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและช่วยลดต้นทุน

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เพื่ออนุมัติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2567 ในอัตรารวม 0.71 บาทต่อหุ้น เมื่อหักการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้นที่บริษัทได้จ่ายไปแล้ว คงเหลือเป็นเงินปันผลที่จะจ่ายอีกในอัตรา 0.53 บาทต่อหุ้น

โบรกฯคาด Q1/68 ยังโตต่อ เริ่มเห็นประโยชน์จาก Synergy

บล.กสิกรไทยเปิดเผยว่า มีมุมมองเชิงบวกต่อ CPAXT จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ปี 2567 ที่แข็งแกร่ง โดยเติบโต 22.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่งผลให้กำไรทั้งปีเติบโตประมาณ 22.4% เมื่อเทียบกับปีก่อน

กำไรในไตรมาส 4 ปี 2567 สูงกว่าที่ตลาดคาดประมาณ 5.5% และหากไม่รวมรายการพิเศษ เช่นค่าใช้จ่ายจากการควบรวม กำไรปกติจะอยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านบาท ซึ่งมาจากการเติบโตของยอดขาย 4.7% และการปรับตัวดีขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 90 bps เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการปรับสินค้าและการจัดสรรต้นทุนใหม่

บล.กสิกรไทยคาดว่าในไตรมาส 1 ปี 2568 CPAXT จะยังสามารถเติบโตต่อเนื่องได้ จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในเดือนมกราคมที่เพิ่มขึ้นประมาณ 4-5% สำหรับธุรกิจค้าส่ง และ 1-3% สำหรับธุรกิจค้าปลีก โดยเราคาดว่าจะเริ่มเห็นประโยชน์จาก Synergy ตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2568 เป็นต้นไป

ขณะที่ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า CPAXT 4Q67 ประกาศกำไรสุทธิ 4 พัน ลบ. (+21% YOY, +103% QOQ) สูงกว่าที่ บล.และตลาดคาดไว้ หนุนปี 2567 กำไรเติบโต 22.3% YOY พร้อมจ่ายปันผลจากกำไร 2H67 ที่ 0.53 บาท/หุ้น (XD 8 เม.ย.) ส่วนปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตดีสุดในกลุ่มอย่างน้อย 19% YOY (เทียบกับกลุ่มเติบโตเฉลี่ย 15% YOY) หลังควบรวมกิจการคาด Synergy จะเริ่มชัดเจนในปี 2568-70

บล.บัวหลวงระบุว่า CPAXT รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 3,960 ล้านบาท (New High) เติบโต 21% YOY และ 103% QOQ หนุนโดยรายได้ และ Margin เป็นไปตามที่เราและตลาดคาด พร้อมประกาศจ่ายปันผล 0.53 บาท ขึ้น XD วันที่ 8 เม.ย. แนวโน้ม 1Q25 คาดยังเติบโต YOY (แต่ลดลง QOQ ตามฤดูกาล) โดยเห็นตัวเลข SSSG เดือน ม.ค. ยังโต 1-2% สำหรับ Makro ไทย และ 3-5% สำหรับ Lotus’s เราคงคำแนะนำซื้อ
ราคาเป้าหมาย 38 บาท