นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท ) กล่าวถึงมาตรการควบคุมสินเชื่อรถยนต์ว่า กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาและติดตามสถานการณ์อยู่ โดยได้มีการหารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ส่วนเรื่องการกำหนดสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ (DSR) มาดูแลการปล่อยสินเชื่อโดยรวม มองว่าหากมีการควบคุมให้มีความสมดุลกัน จะเป็นผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อทั้งระบบ ทั้งสินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบ้าน เพราะที่ผ่านมาสถาบันการเงินได้มีการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อเฉพาะผลิตภัณฑ์มากกว่าภาพรวมรายได้ของผู้ขอกู้ และความสามารถชำระหนี้ว่าเพียงพอหรือไม่
ส่วนกรณีที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงินชะลอตัวลงในขณะนี้ จากมาตรการคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ว่า ยอดสินเชื่อที่ชะลอตัวเกิดจากการเร่งตัวขึ้นของการขอสินเชื่อและการเร่งโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจำนวนมากตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีก่อน ต่อเนื่องมายังไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ จึงทำให้ยอดการขอสินเชื่อในเเดือนเม.ย.และพ.ค.ชะลอตัวลงไปบ้าง ซึ่งธปท.ขอใช้เวลาในการดูผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวอีกระยะหนึ่งก่อนแต่ยืนยันยังไม่มีการทบทวนปรับเปลี่ยนหลักเกณฑ์ใดๆ สำหรับการชะลอตัวของสินเชื่อที่อยู่อาศัยของสถาบันการเงิน
“วัตถุประสงค์หลักของการออก LTV นั้น คือต้องการควบคุมการเก็งกำไรของผู้ที่ทำธุรกรรมที่ 2-3 ไม่ให้เก็งกำไร จนส่งผลต่อราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้นเกินไป ซึ่งการออกมาตรการนี้ จะเป็นผลดีต่อผู้ที่ต้องการมีบ้านหลังแรกที่จะซื้อบ้านในราคาที่ไม่สูงเกินไป ขณะเดียวกันหากธปท.ไม่ดูแลอาจทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์เกิดปัญหาฟองสบู่ และมีปัญหาในวงกว้างตามมาได้” วิรไท กล่าว
