นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจจัดจำหน่ายและช่องทางการค้าปลีก บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด หรือ SCG ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือ SCC กล่าวว่า มาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เกี่ยวกับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน(LTV Ratio) ถือว่าส่งผลกระทบต่อยอดขายบริษัทประมาณ 10% เนื่องจากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ (ดีเวลลอปเปอร์) มีการชะลอการเปิดโครงการใหม่ จากที่ก่อนหน้านี้ยอดขายปูนซีเมนต์ไทยยังเติบโตดีขานรับอานิสงส์จากการลงทุนของรัฐบาล โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ แต่สำหรับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านบาท อาจจะไม่ได้ส่งผลดีต่อกลุ่มวัสดุก่อสร้าง แต่กระตุ้นภาคบริโภคเท่านั้น เนื่องจากส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างจะเป็นภาคเอกชนและร้านค้า
มาตรการที่ออกมาคงจะส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศมากกว่า จึงอยากให้รัฐกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนมากขึ้น เพราะจะส่งผลมายังยอดขายวัสดุก่อสร้างให้เพิ่มขึ้น โดยยอดขายรวมเฉลี่ยต่อปีในประเทศอยู่ที่ 1.3 แสนล้านบาท เติบโต 2-3% จากปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายผ่านตัวแทนจำหน่ายต่อปีอยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท มีร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอยู่ 400 รายทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันยอดขายของบริษัทแบ่งเป็นงานก่อสร้างภาครัฐประมาณ 53% และงานก่อสร้างภาคเอกชน47% ซึ่งในจำนวนนี้ประมาณ 53% เป็นงานก่อสร้างที่อยู่อาศัย หากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นก็จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นได้
