“อุตตม” ตั้งปลัดคลังหัวหน้าทีมศึกษาปรับภาษีบุคคลธรรมดาให้สอดคล้องกับภาษีนิติบุคคล เร่งหาข้อสรุปต่ออายุลด VAT เหลือ 7% พร้อมให้การบ้านสรรพากรเร่งพัฒนาภาษีดิจิทัล-เล็งดึงรัฐวิสาหกิจนำร่องใช้ภาษี “หัก ณ ที่จ่าย/ใบกำกับ” อิเล็กทรอนิกส์
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายกรมสรรพากร ว่า ได้ให้กรมสรรพากร เตรียมแผนจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายทั้งในปีงบประมาณ 2562 ที่ 10 จัดเก็บเกินเป้าแล้วเกือบ 5 หมื่นล้านบาท และ ในปีงบประมาณ 2563 เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพการคลังของประเทศไว้ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีปัญหา พร้อมกับฝากการบ้านให้เร่งพัฒนาโครงสร้างด้านดิจิทัลต่าง ๆเพื่อเชื่อมโยงกับงานของกระทรวงการคลังและรัฐบาล และให้นำเทคโนโลยีใหม่ ๆมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพ อาทิ บล็อกเชน ที่จะนำมาใช้คืนภาษีในเดือน ต.ค.นี้ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การพัฒนาระบบภาษีหัก ณ ที่จ่ายทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ การออกใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์นั้น ทางกระทรวงจะไปประสานกับหน่วยงานอื่น อาทิ กรมบัญชีกลาง และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อให้จูงใจให้รัฐวิสาหกิจเข้ามานำร่องใช้ระบบดังกล่าว นอกจากนี้ ยังให้หาวิธีจูงใจเอสเอ็มอีทำบัญชีเล่มเดียวมากขึ้น โดยที่ผู้ประกอบการเต็มใจและไม่รู้สึกว่าเป็นภาระเกินไป
“ส่วนการเก็บภาษีอีบิสซิเนส จากผู้ประกอบการต่างชาติ กรมยืนยันว่าจะเดินหน้าต่อ โดยยืนยันร่างกฎหมายเดิมที่อยู่ในกฤษฎีกา” นายอุตตมกล่าว
นายอุตตม กล่าวด้วยว่า ได้ตั้งปลัดกระทรวงการคลัง เป็นหัวหน้าทีมพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้สอดคล้องกับภาษีนิติบุคคล โดยไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ส่วนจะปรับลดอัตราภาษีบุคคลธรรมดา 10% ตามที่หาเสียงไว้อย่างไรนั้น ยังอยู่ระหว่างศึกษาให้ครบถ้วน โดยยอมรับว่าตอนหาเสียง ไม่สามารถระบุรายละเอียดทั้งหมดได้ ซึ่งการนำมาใช้จริง ก็ต้องดูภาพรวม
นอกจากนี้ จะเร่งพิจารณาว่าจะต่ออายุมาตรการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เหลือ 7% ออกไปอีกหรือไม่ เพื่อให้ได้ข้อสรุปในเร็ว ๆนี้ โดยยอมรับว่า ช่วงนี้ภาวะเศรษฐกิจมีความท้าทายค่อนข้างมาก
