หุ้น-การเงิน

ค่าเงินบาททรงตัว ตลาดจับตาดูผลการเจรจาสหรัฐ-จีน

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2562 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าววันนี้ (7/10) ที่ระดับ 30.4244 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (4/10) ที่ระดับ 30.44/46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่าลงภายหลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่าการจ้างงงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 136,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 145,000 ตำแหน่ง ถึงแม้ว่าอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี และต่ำกว่าระดับ 3.7% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้นักลงทุนในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 29-30  ตค.นี้ หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันค่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็ยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องความเสี่ยงทางการเมืองในสหรัฐ และความไม่แน่นอนของการเจรจาการค้าระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูของจีนกับสหรัฐที่จะประชุมกันในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30.43-30.47 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 30.45/47 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโรในวันนี้ (7/10) ค่าเงินยูโรเปิดตลาดที่ระดับ 1.0987/89 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (4/10) ที่ระดับ 1.0982/84 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ในช่วงบ่ายกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยตัวเลขยอดสั่ซื้อภาคโรงงานเดือน ส.ค.หดตัวลง 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 0.4% ทั้งนี้รายงานของกระทรวงระบุว่าสาเหตุมาจากความต้องการสินค้าประเภททุนภายในประเทศที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 1.6% ขณะเดียวกันค่าเงินยูโรและปอนด์ยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ (ฺBrexit) ที่ระยะเวลาสิ้นสุดใกล้เข้ามาแล้ว โดยระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.0963-1.0990 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.0971/73 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับการเคลื่อนไหวของค่าเงินเยนในวันนี้ (7/10) เปิดตลาดที่ระดับ 106.76/78 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวอ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (4/10) ที่ระดับ 106.71/73 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ รัฐบาลญี่ปุ่นปรับลดมุมมองต่อเศรษฐกิจสู่ “เลวร้ายลง” ภายหลังจากที่ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจลดลงสู่ระดับ 91.7% ในเดือน ส.ค.จากระดับ 93.7% ในเดือน ก.ค. ทั้งนี้การปรบลดมุมมองดังกล่าวกระตุ้นให้นักวิเคราะห์คาดว่ารัฐบาลญี่ปุ่นอาจจะปรับเพิ่มรายจ่ายหลังจากนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น ได้เคยกล่าวว่า เขาพร้อมจะดำเนินขั้นตอนทุกขั้นตอนที่เป็นไปได้ ถ้าหากความเสี่ยงต่อเศรษบกิจพุ่งสูงขึ้นหลังจากญี่ปุ่นปรับขึ้นภาษีการขายสู่ 10% ทั้งนี้ค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 106.58-107.02 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 106.84/86 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผิต (PPI) เดือน ก.ย. (8/10), สต๊อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือน ส.ค. (9/10), คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. (9/10), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (10/10), อัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย. (10/10), ราคานำเข้าและส่งออกเดือน กย. (11/10), ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน (11/10)

สำหรับอัตราป้อกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -1.2/-1.0 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยงภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -0.8/+0.5 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ