บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด รายงานราคาทองคำประจำวันที่ 12 ส.ค. 2563
รอบหุ
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดดิ่งลงถึง 116.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากหลายปัจจัย ได้แก่ (1) ข่าวที่ว่ารัสเซียประกาศว่าได้อนุมัติวัคซีนต้าน COVID-19 เป็นประเทศแรกของโลกช่วยจุดประกายความหวังเกี่ยวกับการแข่งขันกันผลิตวัคซีนดังกล่าว หากประสบความสำเร็จจะช่วยลดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ ซึ่งปัจจัยนี้กดดันให้เกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัย (2) การเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน “สูงกว่า” ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI จะปรับตัวขึ้น 0.3% (3) บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนที่ 0.655% หลังแตะระดับ 0.661% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค. โดยพุ่งขึ้นจากระดับต่ำสุด 0.504% ในวันพฤหัสบดีที่แล้ว หลังจากมีแรงขายพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐดีเกินคาดต่อเนื่องรวมถึงข่าวรัสเซียจดทะเบียนวัคซีนต้าน COVID-19 (4) ดัชนีดอลลาร์ แข็งค่าขึ้น 0.05% ขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์ชะลอตัวอย่างชัดเจนนับตั้งแต่ตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐดีเกินคาด และ (5) แรงขายทางเทคนิค (Sell Stop) หลังราคาทองคำร่วงหลุดแนวรับหลายแนว ปัจจัยที่กล่าวมากดดันให้ราคาร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ ต่อเนื่องมาจนถึงเช้าวันนี้จนหลุด 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำลดลง -4.19 ตัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (CPI) ของสหรัฐ
คำแนะนำ หากมีการดีดตัวขึ้นไปยังคงแนะนำเสี่ยงเปิดสถานะขายในโซน 1,929-1,947 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากยืนเหนือ 1,947 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้) ชะลอการซื้อคืนหากราคาหลุดโซน 1,889-1,879 ดอลลาร์ต่อออนซ์
