แห่กู้เงินบริษัทประกันใช้ฉุกเฉิน พิษ “โควิด” ทำครัวเรือนขาดสภาพคล่อง

เงินกู้ฉุกเฉิน

“ผู้เอาประกัน” ขาดสภาพคล่องแห่กู้บริษัทประกันชีวิตพุ่ง 24% ผลพวงพิษ “โควิด-19” ทุบเศรษฐกิจแย่ “อลิอันซ์อยุธยาประกันชีวิต” ยอดปล่อยกู้โตสูงสุด ขณะที่ “เอไอเอ” พร้อมให้ลูกค้ากู้-ไม่ห่วงทิ้งกรมธรรม์ ฟาก “กรุงเทพประกันชีวิต” ให้ลูกค้ากู้ชำระกรมธรรม์ที่ทำใหม่ จูงใจปลอดดอกเบี้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พบว่า ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา (ม.ค.-มิ.ย. 2563) บริษัทประกันมีการปล่อยกู้ผ่านเงินให้กู้โดยมีกรมธรรม์เป็นประกันรวมทั้งสิ้น 176,931 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.01% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) ซึ่งคิดเป็นรายได้ดอกเบี้ยของบริษัทประกันประมาณ 4,522 ล้านบาท

โดยบริษัทประกันชีวิตที่มีการปล่อยกู้มากที่สุด 6 อันดับแรก ได้แก่ บริษัท เอไอเอ จำกัด, บมจ.ไทยประกันชีวิต, บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต, บมจ.กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต, บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต, บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต (ดูตาราง) ซึ่งแต่ละบริษัทจะให้กู้เงินประมาณ 80-90% ตามมูลค่าเวนคืน ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะคิดดอกเบี้ยทบต้นในอัตราที่สูงกว่าดอกเบี้ยที่ใช้ในการคำนวณเบี้ยประกันอีกประมาณ 2% ต่อปี

นายโจฮัน ดีทอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลงทุนเอไอเอ เปิดเผยว่า เงินให้กู้โดยมีกรมธรรม์เป็นประกันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งทางเอไอเอยินดีให้ลูกค้ากู้เงิน เนื่องจากเป็นผลประโยชน์ของผู้เอาประกันเอง โดยเชื่อว่าหลังจากผ่านสถานการณ์โควิด-19 ไปแล้ว น่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าการมีประกันชีวิตเป็นเรื่องสำคัญมาก

“เราไม่ได้กังวลว่าลูกค้าจะขาดส่งดอกเบี้ยจนกระทบทำให้กรมธรรม์ขาดอายุ เพราะอย่าลืมว่าแบบประกันบางแบบอัตราดอกเบี้ยที่ทำไว้วันนี้ในอนาคตอาจจะไม่มีแล้ว ลูกค้าคงไม่อยากทิ้ง ซึ่งช่วงที่เหลือของปีนี้ก็ประเมินว่ายอดเงินกู้ก็คงจะเติบโตเพิ่มขึ้นตามอัตราการเติบโตของเบี้ยประกันรวมของบริษัท”

ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กรุงเทพประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทได้ขออนุมัติจาก คปภ.เพื่อขยายโครงการกู้ยืมเงินระยะสั้น (Bridging Loan) ไปจนถึงสิ้นปีสำหรับลูกค้าที่มีกรมธรรม์ใกล้ครบกำหนดอีก 6 เดือน สามารถถอนเงินออกมาได้โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยเงินกู้ใด ๆ แต่มีข้อเสนอว่าต้องนำเงินที่ได้ไปชำระเบี้ยกรมธรรม์ฉบับใหม่ของตนเองหรือบุคคลในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ ลูก หรือคู่สมรส

“ตอนนี้มีลูกค้าที่ครบกำหนดประมาณ 1-2% เข้ามาใช้ Bridging Loan แต่ถ้าโดยทั่วไปกรมธรรม์ที่ครบกำหนดเราสามารถสร้างความต่อเนื่องให้ลูกค้าซื้อกรมธรรม์ต่อประมาณ 10-20% แล้วแต่ช่องทางขาย” ม.ล.จิรเศรษฐกล่าว

ม.ล.จิรเศรษฐกล่าวว่า แนวโน้มยอดเงินกู้กรมธรรม์ของบริษัทอาจจะยังไม่สูงมาก เพราะลูกค้าหลักเป็นลูกค้าที่ซื้อประกันผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันซ์) ซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่ไม่มีความจำเป็นในการกู้เงินมากนัก ในขณะที่แนวโน้มยอดเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นในตลาดน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าของบางบริษัทที่มีความต้องการใช้เงิน

นางภควิภา เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารลูกค้า กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต กล่าวว่า เงินให้กู้โดยมีกรมธรรม์เป็นประกัน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่บริษัทประกันได้ช่วยลูกค้าที่เดือดร้อน แต่บริษัทเองก็จะไม่พยายามโปรโมตเพราะไม่ต้องการให้ลูกค้ามีภาระจ่ายดอกเบี้ย แต่จะเน้นสนับสนุนให้ออมเงินมากกว่า

นางสาวยุวดี เฉลิมศรีภิญโญรัช รองกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารการเงิน บมจ.โตเกียวมารีนประกันชีวิต กล่าวว่า พอร์ตเงินให้กู้ของบริษัทปัจจุบันอยู่ที่ 600 ล้านบาท คิดเป็น 2% ของพอร์ตลงทุนรวม 3.3 หมื่นล้านบาท โดยเริ่มเห็นสัญญาณที่ลูกค้าเข้ามาขอกู้เงินมากขึ้น ตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19

“พอมีการล็อกดาวน์ประเทศ ทำให้ประชาชนเริ่มประสบปัญหาการขาดสภาพคล่อง ซึ่งประเมินแนวโน้มช่วงที่เหลือจะยังคงมีลูกค้าเข้ามาขอกู้เงินต่อเนื่อง” นางสาวยุวดีกล่าว

นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทเปิดให้บริการกู้เงินตามกรมธรรม์ผ่านบริการ OCEAN CONNECT ทาง LINE @oceanlife เพื่อให้ลูกค้าที่ขาดสภาพคล่อง แล้วต้องการใช้เงิน ได้รับเงินรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน

นางภฤตยา สัจจศิลา กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาคเนย์ประกันชีวิต กล่าวว่า บริษัทให้ลูกค้ากู้เงินได้สูงสุด 90% ของมูลค่าเงินเวนคืน อัตราดอกเบี้ย 5-8% ต่อปี ถูกกว่าดอกเบี้ยกู้ยืมในรูปแบบอื่น ๆ โดยไม่ต้องมีบุคคลค้ำประกัน และยืดหยุ่นชำระคืนเงินกู้แบบผ่อนชำระเป็นรายงวด

หรือจะปิดยอดทั้งหมดในครั้งเดียวก็ทำได้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทมีมูลค่าเวนคืนที่ให้กู้รวมกันกว่า 8,500 ล้านบาท