หุ้น-การเงิน

สุพัฒนพงษ์ เร่งคลังดึงเงินออม 1.6 แสนล้าน ปั้นจีดีพีโต 4 %

สุพัฒนพงษ์และ รมว.พลังงาน เร่ง ก.คลัง คลอดมาตรการดึงเงินออม 5-6 แสนล้าน ปั้นจีดีพี โต 4% กางข้อมูลแบงก์ชาติ จีดีพี 5% ต่อเนื่อง 5 ปี พ้นกับดับรายได้ปานกลาง-ประเทศรายได้สูงปี 80

เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีมอบหมายให้กระทรวงการคลังออกมาตรการดึงเงินออมให้ออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า พบว่าเงินฝากสูงขึ้นทั่วโลก อาทิ อเมริกา ยุโรป ในปี 2563 ซึ่งเงินฝากในไทยในปี 63 มีเพิ่มขึ้น 5-6 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างให้กระทรวงการคลังคิดมาตรการออกมา

“เราต้องการผลักดันจีดีพีโต 4% เราต้องการอีก 1% หรือ 1.6 แสนล้าน ถ้าคนไทยจะช่วยกัน การเอาเงินออมออกมาใช้ในประเทศ และถ้าช่วยคนตัวเล็ก คนที่ยังมีอุปสรรค มีปัญหาเรื่องโควิดอยู่ ยิ่งมีประโยชน์ขึ้นไปใหญ่ เพราะแสดงถึงความมีน้ำใจของคนไทย”

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า รายงานจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ประเทศไทยจะพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลาง จีดีพีต้องขยายตัวค่าเฉลี่ย 5 % ติดต่อกัน 5 ปี หรือ ปี 68 และจะเป็นประเทศรายได้สูงในปี 80 แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การแก้ความเหลื่อมล้ำ ซึ่งรัฐบาลพยายามดำเนินมาตรการของรัฐส่งตรงไปถึงประชาชน เพื่อสร้างโอกาส โดยมีมาตรการเร่งด่วน อาทิ โครงการบ้านราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังต้องแก้ปัญหาน้ำอย่างเบ็ดเสร็จ เบื้องต้นภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีแหล่งน้ำขนาดใหญ่หรือไม่ ซึ่งเร็ว ๆ จะเห็นบางโครงการเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาน้ำให้กับเกษตรกร

นายสุพัฒนพงษ์กล่าวว่า เวลานี้อยู่ในช่วงทางแยก 4 อุตสาหกรรม S-curve ใหม่ที่มีความสำคัญที่ทางทีมปฏิบัติการเชิงรุกทาบทามทั้งบริษัทเอกชนไทยและต่างประเทศ ที่มีม.ล.ชโยทิต กฤษดากร เป็นประธาน ได้เลือกมา 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพ และอุตสาหกรรมดิจิทัล คลาวด์ เสร็จทั่วโลกจะต่อยอดกันอย่างไร ยังไม่มีใครรู้ ภาพจบยังต่อยอดได้อีกมากมาย ไม่มีใครพยากรณ์ได้ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การรักษาฐานของประเทศในด้านความมั่นคงทางด้านอาหารและเกษตร และรักษาจุดแข็งในเรื่องการท่องเที่ยว รับนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้ดีที่สุด และในอนาคตเกษตรกรรมและเทคโนโลยีจะวิ่งเข้าหากัน

“วันนี้เรายังไม่รู้ว่า สุดท้ายแล้ว 4 อุตสาหกรรมใหม่จะเปลี่ยนโลกขนาดไหน วันนี้ยังไม่เป็นสิ่งที่เป็น End game ในโลกนี้ ส่วนตัวคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ ต้องไปดึงมาก่อน ต้องมีสิ่งเหล่านี้ก่อนแล้วจะขยายผล”