คลังบี้ธนารักษ์เร่งเพิ่มรายได้ ปั๊มค่าเช่าที่ราชพัสดุ-อุดภาษีเก็บต่ำเป้า

กระทรวงการคลัง

คลังดันธนารักษ์ปั๊มรายได้ส่งแผ่นดินเพิ่ม แก้ปม 3 กรมภาษีเก็บต่ำเป้า อธิบดีธนารักษ์ปักหมุดปีนี้นำส่งไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท เร่งเครื่องเปิดประมูลที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ทั่วประเทศ-เก็บค่าเช่าจากรัฐวิสาหกิจ ขณะที่ภาพรวมรัฐบาลเก็บรายได้ครึ่งปีงบประมาณ 2564 ต่ำเป้าแล้วกว่า 1.2 แสนล้านบาท

นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กระทรวงการคลัง ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายนำส่งรายได้ของกรมธนารักษ์เพิ่มเป็น 7,400 ล้านบาท จากเดิม 7,100 ล้านบาท หลังจากกรมจัดเก็บภาษีเก็บรายได้ได้น้อยลงซึ่งมั่นใจว่ากรมจะสามารถจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการ

เพราะมีการตั้งเป้าหมายเป็นการภายในว่าจะเก็บรายได้ให้ได้ไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท ในปีงบประมาณ 2564 อยู่แล้ว แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการยกเว้นการเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุสำหรับที่อยู่อาศัย และเกษตรกร รวมทั้งผ่อนผันการจ่ายค่าเช่าให้กับผู้ประกอบการที่เช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ก็ตาม

“ปีนี้กรมเว้นเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย และเกษตรกร รวมกว่า 70,000-80,000 ราย เพื่อลดภาระและบรรเทาความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนการเช่าที่ราชพัสดุในเชิงธุรกิจพาณิชย์นั้น กรมก็ได้ผ่อนผันการจ่ายค่าเช่าให้แบบไม่คิดเบี้ยปรับ ช่วยผู้ประกอบการกว่า 100 รายซึ่งเป็นการผ่อนจ่ายตั้งแต่ 3-6 งวด นานสูงสุด 1 ปี

โดยกรมมีวิธีการพิจารณาความช่วยเหลือด้วยการขอดูงบรายรับของผู้ประกอบการในช่วงที่ผ่านมาที่มีโควิด ตัวเลขที่เห็นก็ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการที่ไม่มีรายได้เข้าเลย กรมจึงต้องดูแลทั้งหมด” นายยุทธนากล่าว

ส่วนการเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บรายได้นั้น จะเร่งนำที่ราชพัสดุที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ทั่วประเทศ มาเปิดประมูลให้เช่าเชิงพาณิชย์ ระยะเวลาสัญญาเช่านาน 30 ปี ซึ่งที่ผ่านมากรมสามารถดำเนินการได้หลายจังหวัดแล้วเช่น เชียงราย ที่เป็นที่ราชพัสดุรอบสนามบิน เป็นต้น

โดยประมูลไปแล้ว 2 แปลง นอกจากนี้ ในเร็ว ๆ นี้จะเปิดประมูลที่ราชพัสดุขุนน้ำนางนอน ที่มีเนื้อที่ 90 ไร่ ให้เอกชนเข้ามาลงทุนทำรีสอร์ต เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศรวมทั้งเปิดร้านโอท็อปและอื่น ๆ

นอกจากนี้ กรมอยู่ระหว่างการเร่งโครงการท่าเรือสงขลา ซึ่งจะทำให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 700-800 ล้านบาท และจะเร่งเปิดประมูลสนามกอล์ฟบางพระ รวมถึงที่ราชพัสดุทรงคุณค่า ก็จะเปิดประมูลให้เอกชนมาเช่าเชิงพาณิชย์ด้วย เช่น วังค้างคาว เป็นต้น

พร้อมกันนี้จะเข้าไปดูแลในเรื่องการเช่าที่ราชพัสดุผิดประเภท เช่น เดิมเช่าที่ราชพัสดุเป็นที่อยู่อาศัย แต่นำไปใช้ในเชิงธุรกิจ ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลพบว่ามีอยู่กว่า 4,000-5,000 ราย และขณะนี้ธนารักษ์ในพื้นที่ก็เร่งตรวจสอบให้ครอบคลุมมากที่สุด

อธิบดีกรมธนารักษ์กล่าวด้วยว่า กรมอยู่ระหว่างการประชุมร่วมกับรัฐวิสาหกิจเพื่อคิดค่าเช่าที่ราชพัสดุ อาทิ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เป็นต้น ซึ่งคาดว่าภายใน 2 เดือนนี้ กรมจะมีรายได้จากการเก็บค่าเช่าดังกล่าวเฉลี่ยแห่งละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท

ขณะที่ล่าสุด นางสาวกุลยา ตันติเตมิทผู้อำนวยการสำงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2564 (ต.ค. 2563-มี.ค. 2564) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,018,711 ล้านบาทต่ำกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 122,545 ล้านบาท หรือ 10.7% และต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน123,594 ล้านบาท หรือ 10.8%

เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากร ต่ำกว่าประมาณการ 76,728 ล้านบาท หรือ 9.4% การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ ต่ำกว่าประมาณการ 35,006 ล้านบาท หรือ 42.3% และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตต่ำกว่าประมาณการ 25,319 ล้านบาท หรือ 8.3%


ก่อนหน้านี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2564 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังได้รายงานการเงินรวมภาครัฐ พ.ศ. 2563 ให้ที่ประชุม ครม.รับทราบ พร้อมกับมีการให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมว่ารัฐบาลควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการด้านการจัดเก็บรายได้ โดยจะต้องมีการปฏิรูปการจัดเก็บรายได้ โดยการนำทรัพย์สินของภาครัฐมาสร้างรายได้ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ