ยอดเปิดบัญชีสินทรัพย์ดิจิทัล เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 3.59 แสนบัญชี

ก.ล.ต. เผยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสัปดาห์นี้ มูลค่าทั่วโลกพุ่งเเตะ 2.02 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวันที่ 143.75  พันล้านดอลลาร์ ผลตอบแทน ‘อีเธอร์เรียม’ ลดลงอยู่ที่  +350.73% จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่พุ่งสูงถึง +484.23%  ทั้งนี้พบว่าจำนวนบัญชีซื้อขายเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น  3.59 แสนบัญชี มูลค่ารวม 5.5 หมื่นล้านบาท  

วันที่ 18 กันยายน 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก มีมูลค่าตามมาร์เก็ตแคป (Market cap.) ประมาณ 2.02  ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.34 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกว่า 41.34% มาจากบิตคอยน์ (Bitcoin) และมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 143.75  พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 136.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: coinmarketcap 13 ก.ย.64) 

ทั้งนี้ พบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบกับหลักทรัพย์ทองคำและน้ำมัน โดยมูลค่าอีเธอร์เรียม (Ethereum) ในสัปดาห์นี้ยังให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในแอสเสทคลาส +350.73% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +484.23% ตามมาด้วย XRP อยู่ที่ +349.16% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่  +441.53%  สำหรับบิตคอยน์ (Bitcoin) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ +54.48% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +77.55% 

ขณะที่ผลตอบแทนน้ำมัน (Oil) อยู่ที่ +45.20%  ส่วนทองคำ(Gold) อยู่ที่ -5.53% โดยราคาสินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังมีความเสี่ยงและความผันผวนค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้นไทย (SET INDEX) ที่ให้ผลตอบแทนอยู่เท่าเดิมเหมือนสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +12.72%  (ที่มา : Bloomberg 13 ก.ย.64) 

ทั้งนี้มูลค่าการซื้อขายเริ่มกลับมาสูงขึ้นตามแนวโน้มราคาของตลาดสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีพบว่าเหรียญสกุล บิตคอยน์ (Bitcoin) และ อีเธอร์เรียม (Ethereum) ปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าเหรียญสกุลอื่น ๆ 

มูลค่าการซื้อขายของเหรียญต่าง ๆ เริ่มมีการกระจายมากขึ้นจากการเติบโตของเหรียญสกุลอื่น ๆ  โดยในสัปดาห์นี้ของเดือนก.ย.มีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 7.4 หมื่นล้านบาท เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 3.2 หมื่นล้านบาท และพบว่าตั้งแต่ต้นปีมูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ค่อนข้างกระจายตัว (ข้อมูล ณ 13 ก.ย.64)

จำนวนบัญชีซื้อขายของรายย่อยในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับทิศทางของราคาตลาด โดยพบว่าหลังจากช่วงที่มีบัญชีการซื้อขายสูงสุดในเดือน พ.ค. จำนวนบัญชีมีการปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นจำนวนบัญชีเพิ่มขึ้นในเดือน ส.ค.ตามภาวะของตลาด 

โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่  3.59 แสนบัญชี เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่  2.61 แสนบัญชี ขณะที่มูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่มาจากการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยในประเทศ โดยมีมูลค่าซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท  

ส่วนนิติบุคคลต่างชาติยังเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีสูงที่สุด มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 2.49 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่  1.70 แสนล้านบาท โดยในช่วงเดือนก.ย.นักลงทุนรายย่อยในประเทศมียอดขายสุทธิ ในขณะที่ผู้ซื้อขายประเภทอื่นมียอดขายสุทธิ (ข้อมูล 1 พ.ย. 63 – 13 ก.ย. 64)