ก.ล.ต. เผยตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลสัปดาห์ที่ผ่านมามูลค่าทั่วโลกอยู่ที่ 2.63 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้น 133.98 พันล้านดอลลาร์ ผลตอบแทน ‘บิตคอยน์’ ลดลง +107.61% ‘อีเธอร์เรียม’ เพิ่มขึ้น +490.73% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมายอดเปิดบัญชีซื้อขาย ณ สิ้นเดือน ต.ค.64 ทั้งหมดอยู่ที่ 4.84 แสนบัญชี ขณะที่ในต้นเดือน 1 พ.ย.มียอดเปิดบัญชีอยู่ที่ 1.25 แสนบัญชี มูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่ยังมาจากรายย่อยในประเทศอยู่ที่ 1.01 แสนล้านบาท โดยการซื้อขายสูงสุดอยู่ในช่วง 21.00 น. และ 22.00 น.
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) รายงานภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลก มีมูลค่าตามมาร์เก็ตแคป (Market cap.) ยังทรงตัวจากสัปดาห์ก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 2.63 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกว่า 43.76% มาจากบิตคอยน์ (Bitcoin) และมีมูลค่าการซื้อขายต่อวันอยู่ที่ 133.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 98.54 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ที่มา: coinmarketcap 1 พ.ย.64)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ทั้งนี้ยังคงพบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลให้ผลตอบแทนสูงกว่าเมื่อเทียบกับหลักทรัพย์ประเภททองคำและน้ำมัน โดยมูลค่าอีเธอร์เรียม (Ethereum) ในสัปดาห์นี้ยังให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในแอสเสทคลาส +490.73% เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +472.75% ตามด้วย XRP อยู่ที่ +356.42% ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +357.59 % สำหรับบิตคอยน์ (Bitcoin) ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผลตอบแทนลดลงมาอยู่ที่ +107.61% จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ +113.82%
ขณะที่ผลตอบแทนน้ำมัน (Oil) อยู่ที่ +73.23% ส่วนทองคำ(Gold) อยู่ที่ -5.55% โดยราคาสินทรัพย์ดิจิทัลก็ยังมีความเสี่ยงและความผันผวนที่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับราคาหุ้นไทย (SET INDEX) โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนอยู่ที่ +11.35% (ที่มา : Bloomberg 1 พ.ย.64)
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามูลค่าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ณ สิ้นเดือน ต.ค.64 อยู่ที่ 1.39 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 9.7 หมื่นล้านบาท ขณะที่ในช่วงต้นเดือน พ.ย.มูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 7,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ จำนวนบัญชีผู้ลงทุนทั้งหมดอยู่ที่ 1,636,939 บัญชี (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ก.ย.64 ) จำนวนบัญชีซื้อขายของบุคคลธรรมดาในประเทศยังคงมีการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับทิศทางของราคาตลาด โดยพบว่าหลังจากช่วงที่มีบัญชีการซื้อขายสูงสุดในเดือน พ.ค.64 ได้ปรับตัวลดลง และมีแนวโน้มสูงขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือน ก.ค.
โดยจำนวนยอดเปิดบัญชีซื้อขาย ณ สิ้นเดือน ต.ค.64 ทั้งหมดอยู่ที่ 4.84 แสนบัญชี ขณะที่ในช่วงต้นเดือน พ.ย.มียอดเปิดบัญชีอยู่ที่ 1.25 แสนบัญชี
ขณะที่มูลค่าซื้อขายส่วนใหญ่ยังคงมาจากการซื้อขายของนักลงทุนรายย่อยในประเทศ โดยมีมูลค่าซื้อขายในสัปดาห์ที่ผ่านมาณ ณ สิ้นเดือน ต.ค.64 อยู่ที่ 1.01 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 6.9 หมื่นล้านบาท และช่วงต้นเดือน พ.ย. 64 ที่ 6,000 ล้านบาท (ณ 1 พ.ย. 64)
ส่วนนิติบุคคลต่างชาติยังคงเป็นกลุ่มที่มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อบัญชีสูงที่สุด มีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยในสัปดาห์ที่ผ่านมา ณ สิ้นเดือน ต.ค.64 อยู่ที่ 291.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 252.38 แสนล้านบาทขณะที่ต้นเดือน พ.ย. อยู่ที่ 48.15 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ในเดือน ก.ย. บุคคลธรรมดาในประเทศกลับมามียอดซื้อสุทธินับตั้งแต่เดือน มิ.ย. ในขณะที่ผู้ซื้อขายประเภทอื่นมียอดขายสุทธิ อย่างไรก็ดี ในเดือน ต.ค.บุคคลธรรมดาในประเทศมียอดขายสุทธิ ในขณะที่นิติบุคคลต่างประเทศมียอดซื้อสุทธิเพิ่มขึ้น
โดยการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเกิดขึ้นตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการซื้อขายสูงสุดอยู่ในช่วงเวลา 21.00 และ 22.00 น. (ข้อมูล ณ 1 พ.ย.64)
