สำนักงาน ก.ล.ต.เผยข้อมูลตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลรายสัปดาห์ ( 28 มี.ค.65) เผยปัจจุบันมูลค่าตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซื้อขายต่อวัน 11.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้านผลตอบแทน XRP และ บิตคอยน์ บวกขึ้นมา 8.47% และ 3.78% ตามลำดับ ขณะที่เดือนมี.ค. นิติบุคคลต่างชาติมียอดซื้อสุทธิสินทรัพย์ดิจิทัลสูงสุด 2.4 หมื่นล้านบาท
วันที่ 2 เมษายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เผยว่า ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมูลค่าตาม Market cap. หรือ มูลค่าตามราคาตลาด อยู่ที่ประมาณ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ 11.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อวัน
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- “ทอง” รับข่าวร้ายดันราคาขาขึ้น บาทอ่อนค่าจ่อทะลุ 37 บาท
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
โดยสินทรัพย์ดิจิทัลที่มี Market Cap. สูงสุดนำโดยบิตคอยน์ (Bitcoin) 42.11% ตามด้วยอีเทอเรียม (Ethereum) 18.92% และธีเทอร์ (Tether) อยู่ที่ 3.80% ส่วนบีเอ็นบี (BNB) และ USD Coin มี Market Cap. อยู่ที่ 3.37% และ 2.45% ตามลำดับ (ข้อมูล ณ 28 มี.ค. 65)
ในปี 2565 มูลค่าซื้อขายสะสมแยกตามประเภทสินทรัพย์ดิจิทัลพบว่าค่อนข้างกระจายตัว โดยสัดส่วนการซื้อขายสูงสุดบนเว็บเทรด หรือ Exchange ของไทยสูงสุดนำโดยธีเทอร์ (Tether) 4.21 หมื่นล้านบาท ตามด้วยบิตคอยน์อยู่ที่ 4.13 หมื่นล้านบาท ส่วนเหรียญคับ (KUB) อยู่ที่ 2.89 หมื่นล้านบาท และอีเทอเรียมมีมูลค่าซื้อขายอยู่ที่ 2.53 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้พบว่าสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโตเคอร์เรนซี อย่าง XRP และ บิตคอยน์ (Bitcoin) บวกขึ้นมา 8.47% และ 3.78% ตามลำดับ ขณะที่อีเทอเรียมติดลบอยู่ที่ -10.66% ตามด้วยเหรียญคับ (Kub) ติดลบสูงสุด -17.13%
อย่างไรก็ตามถ่านหิน (Coal) ยังคงให้ผลต่อสูงสุดตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 49.20% ตามด้วยน้ำมัน (Oil) 47.94% และอะลูมิเนียม (Aluminium) ที่ 27.24% ส่วนทองคำ 5.96% และดัชนีหุ้นไทย (SET) อยู่ที่ 0.84%
ทั้งนี้พบว่ามูลค่าซื้อขายมีแนวโน้มลดลงตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 โดยมีมูลค่าซื้อขาย (ณ 28 มี.ค. 65) อยู่ที่ 6.1 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากบุคคลธรรมดาในประเทศสูงถึง3.5 หมื่นล้านบาท บุคคลธรรมดาต่างประเทศ 1.4 หมื่นล้านบาท และนิติบุคคลต่างประเทศ 1.2 หมื่นล้านบาท
ขณะที่จำนวนบัญชีซื้อขาย (ณ 28 มี.ค. 65) อยู่ที่ 3.23 แสนบัญชี อย่างไรก็ดีในเดือนมี.ค.65 นิติบุคคลต่างชาติมียอดซื้อสุทธิสูงสุด 2.4 หมื่นล้านบาท ในขณะที่บุคคลธรรมดาในประเทศและต่างประเทศมียอดขายสุทธิ
