บริษัท ไฮเวย์ จำกัด ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” เดินหน้าปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนโต 30-40% ดันพอร์ตคงค้างสิ้นปีแตะ 2.5 หมื่นล้านบาท
วันที่ 27 นายศุภชัย บุญศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮเวย์ จำกัด ผู้ให้บริการสินเชื่อจำนำทะเบียนรถและนายหน้าประกันภัย ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ในกลุ่มธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเติบโตอยู่ที่ 30-40%
- เปิด 20 อันดับมหาวิทยาลัย ที่โดดเด่นด้านวิศวกรรมศาสตร์
- กรุงไทย ปิดระบบ-แอป Next 11-12 และ 14 พ.ค. นี้ เช็กรายละเอียด
- เปิดทรัพย์สิน-งบการเงิน “มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล” ย้อนหลัง 5 ปี
โดยคิดเป็นยอดสินเชื่อคงค้างเพิ่มขึ้นราว 7-8 พันล้านบาท ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อคงค้างสิ้นปีจะอยู่ที่ราว 2.5 หมื่นล้านบาท (กรณีรวมพอร์ตสินเชื่อของธนาคารทิสโก้) จะเพิ่มเป็น 4 หมื่นล้านบาท โดยสัดส่วนพอร์ตสินเชื่อประมาณ 80-90% จะเป็นจำนำทะเบียนรถยนต์ 4 ล้อ และที่เหลือจะเป็นรถจักรยานยนต์และรถบรรทุก
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทมีสินเชื่อเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก และคาดว่าทั้งปีน่าจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณธุรกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน
ประกอบกับในปีที่ผ่านมาบริษัทเน้นการช่วยเหลือฐานลูกค้าเดิมเป็นสำคัญ และชะลอการปล่อยสินเชื่อใหม่ ซึ่งในปีนี้บริษัทจะหันมาเติบโตเพิ่มมากขึ้น โดยเฉลี่ยการเติบโตจะมาจากฐานลูกค้าใหม่ 60% และลูกค้าเก่าอีก 40% เพิ่มจากในช่วงโควิด-19 ที่สัดส่วนลูกค้าใหม่และเก่าจะเท่ากันอยู่ที่ 50%
และจากมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของการลดค่างวด ยืดอายุการชำระหนี้ และโครงการคืนรถจบหนี้ บริษัทคาดว่าแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะมีทิศทางที่ดีขึ้นและอยู่ในวิสัยบริหารจัดการได้
ซึ่งประเมินว่าหนี้เอ็นพีแอลได้ผ่านจุดสูงสุดในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 ไปแล้วอยู่ที่กว่า 3% และหลังจากนั้นตัวเลขเริ่มทยอยปรับลดลง โดยบริษัทคาดว่าในปีนี้กรอบหนี้เอ็นพีแอลจะอยู่ที่ไม่เกิน 3%
“ยอมรับว่าปีก่อนผลกระทบจากโควิดสายพันธุ์เดลต้าค่อนข้างหนัก ทำให้เราต้องช่วยลูกค้าภายใต้สินเชื่อใหม่ที่พยายามปล่อยด้วย ซึ่งเราเห็นสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงเดือน 7-8 เราจึงคิดว่าลูกค้าที่เราช่วยไปน่าจะรอด และธุรกิจใหม่ก็น่าจะไปได้ หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงใหม่ๆ ที่ไม่คาดคิด คาดว่าเป้าหมายน่าจะทำได้”
นายศุภชัยกล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมตลาดจำนำทะเบียนรถ บริษัทมองว่ายังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก หากดูตัวเลขตามรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มูลค่าตลาดอยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (น็อนแบงก์) โดยยังไม่นับรวมที่อยู่ภายนอกการกำกับ จึงเป็นโอกาสของบริษัท สมหวัง ที่จะขยายการเติบโตไปยังลูกค้าทุกกลุ่มตั้งแต่รถ 2 ล้อจนถึง 18 ล้อ
ขณะที่การแข่งขันธุรกิจจำนำทะเบียนรถ เชื่อว่ามีการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดจำนำทะเบียนรถเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ มีจำนวนรถสะสมมากกว่ารถยนต์ใหม่หลายสิบเท่า ซึ่งบริษัทจะเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
โดยในส่วนของอัตราดอกเบี้ยยังคงเชื่อว่าไม่ได้ขยับในปีนี้สอดคล้องกับนโยบายของทางการอย่างธปท.ที่จะยืนพื้นดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ส่วนในปี 2566 หากทางการมีการขยับดอกเบี้ยขึ้น บริษัทจะมาพิจารณาปรับขึ้นตามความเหมาะสม แต่โดยเฉลี่ยการแข่งขันในส่วนของดอกเบี้ยทั้งระบบจะอยู่ที่ประมาณ 0.50-0.90% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มลูกค้า ผลิตภัณฑ์ และหลักประกันของลูกค้า เป็นหลัก
ล่าสุด เพื่อฉลองในโอกาสครบรอบ 10 ปี ของ “สมหวัง เงินสั่งได้” จัดแคมเปญ “สั่งง่ายได้ไว คันไหนๆ ก็สมหวัง” เดินหน้าสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้กับคนไทยต่อเนื่อง โดยบริการพิเศษจะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าของสมหวัง เงินสั่งได้ สามารถเบิกเงินสดก้อนใหม่จากวงเงินสินเชื่อจำนำทะเบียนแบบวงเงินหมุนเวียน โดยไม่ต้องยื่นขอสินเชื่อใหม่ได้ทุกที่ ผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ได้แก่ Mobile Application “TISCO My Car”, Call Center (ธนาคารทิสโก้เป็นผู้ให้บริการ) รวมถึงสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ทั่วประเทศ
และเป็นการต่อยอดจากแคมเปญ “ฝ่าวิกฤต ชีวิตตั้งหลักได้” ที่ช่วยให้ลูกค้าจำนำทะเบียนรถเข้าถึงสินเชื่อได้ โดยไม่ว่าอาชีพไหนก็กู้ได้ อนุมัติไวทันใจและทราบผลภายใน 2 ชั่วโมง ไม่ต้องมีคนค้ำ ไม่เช็กประวัติเครดิตบูโร ให้วงเงินสูงสุด 250,000 บาท และผ่อนชำระได้สูงสุด 60 งวด พร้อมกันนี้ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษวงเงินจัดเต็มแบบไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินกู้สมนาคุณให้กับลูกค้าตลอดปี 2565
“เราพยายามจะช่วยลูกค้าให้เขาถึงระบบมากขึ้น โดยการใช้แคมเปญที่ให้ลูกค้าไม่ต้องตรวจประวัติ NCB เพราะต้องยอมรับว่าลูกค้าบางรายไม่อยากตรวจ และหันไปใช้เงินกู้นอกระบบแทน โดยเราจะใช้วิธีการตรวจคุณสมบัติลูกค้าในด้านอื่นๆ แทนเช่น รายได้ อาชีพ เป็นต้น
รวมถึงการยกเลิกค่าฟีสินเชื่อด้วย และจะมีการประเมินผลของแคมเปญดังกล่าวอีกที แต่จะเป็นแคมเปญหลักในการเติบโตปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทบาลานซ์ช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยมองว่าสาขายังคงจำเป็นสำหรับลูกค้า ปัจจุบันเรามีจำนวน 400 แห่ง ส่วนจะไปจบที่ 500 หรือ 800 แห่งอาจต้องดูภาวะตลาดอีกที ขณะที่ช่องทางออนไลน์ปัจจุบันมีลูกค้ารายใหม่เข้ามาใช้บริการราว 20%”
และเพื่อเข้ามาสร้างสีสันในการขยายฐานการดูแลคนไทยให้กว้างขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ด้วยการเติมเต็มความสุขและสนุกสนานผ่านเสียงเพลงตามกลยุทธ์ “มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง” ล่าสุด เปิดตัวเพลงใหม่ “สมหวังแล้วค่ะ (เชพบ๊ะ COVER)”
โดยได้หยิบเอาเพลงเชพบ๊ะ ของ ฮาย อาภาพร นครสวรรค์ นักร้องลูกทุ่งสาวยอดนิยม มาดัดแปลงเนื้อร้องให้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของบริษัทและทำให้เป็นดนตรีร่วมสมัย สนุกสนาน โดยมี เด่นคุณ งามเนตร มาร่วมเป็นนักแสดงนำในมิวสิควิดีโอ
นอกจากนี้ยังได้จัดกิจกรรม “ฉลอง 10 ปี สมหวัง เต้นสนั่น ต๊าชชช…ไม่ไหว” โดยเชิญชวนผู้ที่สนใจสามารถสนุกไปด้วยกัน โดยการร่วมเต้นเพลง “สมหวังแล้วค่ะ (เชพบ๊ะ COVER)” และเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม TikTok กติกาง่าย ๆ เพียงกดติดตามบัญชี TikTok @somwang.co.th และโพสต์วิดีโอ Cover ท่าเต้นหลักในบัญชีส่วนตัว พร้อมติดแฮชแท็ก #สมหวังเงินสั่งได้ #สมหวังแล้วค่ะ และตั้งค่าเป็นสาธารณะ ตั้งแต่วันที่ 6 – 31 พฤษภาคม 2565 เพื่อลุ้นเป็น “ผู้สมหวัง” ได้รับของรางวัล อาทิ รถจักรยานยนต์ Honda Scoopy-i โทรศัพท์ iPhone 13 สร้อยคอทองคำ และ e-Voucher Tesco Lotus’s จำกัดสิทธิ์ 1 บัญชีต่อ 1 รางวัล
