หุ้น-การเงิน

หุ้นธนาคารใหญ่ถูกเทขายหนักนำตลาด โบรกเตือนภาคบ่าย “ขายหุ้นแบงก์”

ธนาคารพาณิชย์

หุ้นธนาคารใหญ่ กอดคอร่วงหนักเช้าวันนี้ นำตลาด SCB -3.25% กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยแรงสกัดเงินเฟ้อพุ่งกระทบมูลค่าหุ้น ด้าน “บล.ฟิลลิป” เตือนภาคบ่ายขายหุ้นแบงก์

 

วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นธนาคารพาณิชย์(BANK) ในตลาดหุ้นไทย ช่วงปิดตลาดภาคเช้าวันนี้พบว่า ราคาหุ้น 4 แบงก์ใหญ่ ประกอบด้วย 1.บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCB) -3.25% 2.ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) -1.02% 3.ธนาคารกรุงไทย(KTB) -1.34% และ 4.ธนาคารกรุงเทพ(BBL) -1.91%

ในขณะที่ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทย(SET Index) อยู่ที่ 1,544.21 จุด เปลี่ยนแปลง -2.59 จุด หรือลดลง 0.17% โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,550.33 จุด และลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1,542.27 จุด มีมูลค่าการซื้อขายที่ 30,886.11 ล้านบาท

ด้านนายธนภัทร ฉัตรเสถียร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ราคาหุ้น 4 แบงก์ใหญ่ที่ปรับตัวลงวันนี้ หลัก ๆ คงเป็นตามสภาพตลาดจากภาวะเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมาแรง จึงกดดันให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) น่าจะขึ้นมาแรงด้วยในช่วงปลายเดือนนี้

“การที่ราคาหุ้นแบงก์ปรับตัวลงรอบนี้คือไม่ใช่เรื่องเฉพาะตัวแต่เป็นภาพตลาดหุ้น เพราะดัชนี SET Index ที่ปรับตัวลงมาแรง กลุ่มแบงก์ใหญ่ที่เป็นตัว Lead ตลาดก็ถูกเทขายออกมา”

ซึ่งแน่นอนว่าขณะนี้ทิศทางค่าเงินบาทก็อยู่ในสถานะที่อ่อนค่ามาแรงมากแล้ว ด้านคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) มีความเสี่ยงที่จะต้องตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามไปด้วย ซึ่งอาจจะไม่ใช่ระดับ 0.25% เหมือนช่วงก่อน แต่อาจจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50%

“ตรงนี้แม้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลบวกในเชิงพื้นฐานต่อกลุ่มแบงก์ใหญ่ แต่จะมีผลด้านลบเหมือนกันในแง่ของมูลค่าหุ้น(Valuation) ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่หุ้นแบงก์แต่รวมถึงหุ้นทั้งตลาดด้วย”

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) รายงานว่า เช้านี้ SET Index แกว่งตัวกรอบแคบไม่ไปไหนไกล โดยมีแรงเทขายในหุ้นกลุ่มแบงก์ใหญ่ กดดันดัชนีปิดตลาดปรับตัวลดลง 2.59 จุด หรือ -0.17% ช่วงภาคบ่ายวันนี้ให้มุมมอง “ขายหุ้นแบงก์” คาด SET Index แกว่งกรอบแคบต่อ แนะนำเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่มีปัจจัยบวกหนุน อาทิ บาทอ่อนค่า หลังเงินบาททะลุ 36.35 บาทต่อดอลลาร์แล้ว

โดยแนะนำเทรดดิ้ง 1,540-1,550 จุด ในกรอบแนวต้าน 1,550 จุด และแนวรับที่ 1,540 จุด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) รายงานว่า ตลาดเริ่มคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 1% ในการประชุมปลายเดือนนี้ กดดันดอลลาร์แข็งค่าต่อ และกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities) โดยตลาดกำลังหาจุดพีกของเงินเฟ้อ

ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ(US Bond yield) อายุ 2 ปีพุ่งเป็น 3.2% ขณะที่บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.9576% เกิด Inverted yield curve -0.242% ติดลบมากสุดนับตั้งแต่ปี 2000 ส่งสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐเกิดภาวะถดถอย (Recession)

ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าวันนี้แบงก์ชาติฟิลิปปินส์ใช้ยาแรงปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% โดยสัปดาห์นี้มีงบของ JPMorgan, Morgan Stanley, Citigroup, Wells Fargo, และ TISCO รวมทั้งมีตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตของสหรัฐ