อิทธิพล พายุมู่หลาน แม่น้ำโขงสูงขึ้นเกือบเมตรครึ่ง เชียงราย-น่าน ยังจม

แม่น้ำโขง จ.หนองคายขึ้นวันเดียวเกือบเมตรครึ่ง จากอิทธิพลของพายุมู่หลาน ปภ.ชี้ มี 11 จังหวัดน้ำท่วม เชียงราย-น่าน ยังอ่วม อยุธยา น้ำล้นตลิ่ง

วันที่ 14 สิงหาคม 2565 มติชนออนไลน์ รายงานว่า น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย ยังขึ้นฉับพลันต่อเนื่อง จากมวลน้ำที่ไหลมาจากตอนเหนือทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” วันเดียวขึ้น 133 ซม. พระธาตุกลางน้ำโขงลอยเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ ถูกน้ำท่วมจนมองไม่เห็น โป๊ะแพ เรือและกระชังปลาที่เลี้ยงในแม่น้ำโขง ต้องดูแล ปรับให้มีระดับที่เหมาะสมกับระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังต้องระมัดระวังกิ่งไม้และท่อนไม้ชนเรือและกระชังปลา เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย

ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดหนองคาย วันนี้ยังคงขึ้นฉับพลันอย่างต่อเนื่องอีกวัน จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักทางตอนเหนือของไทยและ สปป.ลาว ทำให้มีน้ำจากลำน้ำสาขาไหลลงในแม่น้ำโขงในปริมาณมาก

ล่าสุดระดับน้ำโขงวัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย กรมทรัพยากรน้ำ มีระดับอยู่ 7.55 เมตร เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของเมื่อวานนี้ถึง 1.33 เมตร ต่ำกว่าตลิ่ง 4.65 เมตร ถือเป็นการเพิ่มขึ้นวันเดียวเกิน 1 เมตร และยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่อง เนื่องจากวันนี้ระดับน้ำโขงที่สถานีเชียงคาน จังหวัดเลย เพิ่มขึ้น 98 ซม. เช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่าจะไหลมาถึงจังหวัดหนองคาย ภายใน 20 ชม.นี้

จากระดับน้ำโขงที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ส่งผลกระทบกับโป๊ะแพ เรือ และกระชังปลาที่เลี้ยงในแม่น้ำโขง ที่ต้องดูแลความมั่นคงแข็งแรง และต้องคอยปรับให้มีความเหมาะสมกับระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยเฉพาะเกษตรกรที่เลี้ยงกระชังปลา ต้องคอยดูแลเศษไม้และท่อนไม้ที่ลอยมาตามน้ำ ไม่ให้ชนกระชังปลาจนเกิดความเสียหาย ทำให้ปลาที่เลี้ยงหลุดออกจากกระชัง

นอกจากนี้ ชาวบ้านที่สัญจรทางเรือและออกหาปลาในแม่น้ำโขง ก็ต้องระมัดระวังเศษไม้ ท่อนไม้ ไม่ให้ชนกับเรือ และชนกับตาข่ายจับปลาจนเกิดความเสียหาย ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะหยุดออกจับปลาในแม่น้ำโขงในช่วงนี้เป็นการชั่วคราว

น้ำโขงที่เพิ่มขึ้นสูง ยังได้ท่วมพระธาตุกลางน้ำ ที่จมอยู่ในแม่น้ำโขง บริเวณชุมชนวัดธาตุ ในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย จุดลอยเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ เห็นเพียงคลื่นน้ำที่เกิดจากน้ำโขงที่ไหลเชี่ยวมาชนกับองค์พระธาตุกลางน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็ยังมีประชาชนนำเถ้ากระดูกของญาติพี่น้องลงไปลอยอังคารในแม่น้ำโขง ซึ่งทุกคนต้องสวมเสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัย

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานสถานการณ์พายุโซนร้อน “มู่หลาน” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นบริเวณเมืองลางซอน สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และอ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง

ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 11-14 สิงหาคม 2565 ส่งผลให้มีพื้นที่เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมขัง รวม 11 จังหวัด

ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ พิษณุโลก นครพนม เลย และปราจีนบุรี 34 อำเภอ 109 ตำบล 609 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5,477 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย (เชียงราย) ปัจจุบันยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย และน่าน รวม 5 อำเภอ 18 ตำบล 98 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,074 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลงทุกพื้นที่

ดังนี้ 1.เชียงราย ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่จัน และอำเภอแม่สาย รวม 5 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 666 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง 2.น่าน ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอภูเพียง และอำเภอเวียงสา รวม 13 ตำบล บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 408 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงเฝ้าระวังในเขตพื้นที่อำเภอเมือง

จากสถานการณ์ฝนตกหนักในภาคเหนือ ทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณระหว่าง 1,400-1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,000-1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.20-0.60 เมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

แม่น้ำน้อยทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งและท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ ดังนี้ 3.พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำล้นตลิ่งจากการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาในพื้นที่อำเภอเสนา (ตำบลหัวเวียง บ้านกระทุ่ม บ้านโพธิ์ บ้านแพน ตะรางจระเข้) อำเภอผักไห่ (ตำบลบ้านใหญ่ ลาดชิด กุฎี ท่าดินแดง) อำเภอบางบาล (ตำบลวัดตะกู บ้านคลัง ทางช้าง น้ำเต้า) บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 600 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ปัจจุบันระดับน้ำทรงตัว

สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งพื้นที่ที่สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว


จะได้เร่งสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชั่น “THAI DISASTER ALERT”