แถลงสถานการณ์ไวรัสโคโรน่า 1 ก.พ. จำนวนผู้ป่วยสะสม 19 ราย พบ “ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวัง” เพิ่ม 64 ราย

กระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทย แถลงข่าวกรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Novel Coronavirus;2019-nCoV) ประจำวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า นับถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 08.00 น. มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสม 19 ราย และในวันที่ 31 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่จำนวน 64 ราย

รายละเอียดในการแถลงข่าว มีดังนี้

1.สถานการณ์ ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์  2563 ณ เวลา 08.00 น.

-รายงานผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อขณะนี้นอนในโรงพยาบาล 12 ราย กลับบ้านแล้ว 7 ราย รวมสะสม 19 ราย

-มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 ถึง 31 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 344 ราย คัดกรองจากสนามบิน 39 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 305 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 70 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 274 ราย โดยในวันที่ 31 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรครายใหม่จำนวน 64 ราย

-สถานการณ์ทั่วโลกใน 22 ประเทศ  ข้อมูล ตั้งแต่ 5 – 30 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 9,819 ราย ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 31 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 9,692 ราย เสียชีวิต 213 ราย

-ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” งดแชร์ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ และมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เพื่อไม่ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/ และ Line@/เฟสบุ๊ค: รู้กันทันโรค,Coronavirus2019, กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นอกจากนั้นสามารถตรวจสอบข่าวลวงได้ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม www.antifakenewscenter.com

 

2.สธ.ร่วมภารกิจนำคนไทยจากอู่ฮั่นกลับประเทศ เน้นย้ำเฝ้าระวังต่อเนื่อง 14 วัน

กระทรวงสาธารณสุขหารือกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  เตรียมความพร้อมรับคนไทยที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ตามมาตรฐานการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค หากพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังจะแยกเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนกลุ่มที่ไม่มีอาการป่วยจะติดตามอาการต่อเนื่องจนครบกำหนด 14 วัน

นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า รัฐบาลได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเพื่อรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมหารือกับกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมการนำคนไทยกลับประเทศ ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการเตรียมการตั้งแต่ก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ครอบคลุมทั้งเรื่องอุปกรณ์ที่จำเป็นในการปฏิบัติภารกิจ การประสานงานระหว่างทีมแพทย์ไทยและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การเตรียมการจุดคัดกรองเมื่อมาถึงสนามบินในประเทศไทย มีการตรวจคัดกรองผู้โดยสารทุกคนก่อนขึ้นเครื่อง และเมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย ในกรณีที่ตรวจพบผู้โดยสารมีอาการป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังจะมีการลำเลียงไปยังโรงพยาบาลที่กำหนดด้วยมาตรฐานการควบคุมโรคสูงสุด ส่วนผู้ที่ไม่มีอาการจะมีการตรวจคัดกรอง เฝ้าระวังโรคอย่างเข้มข้นโดยทีมแพทย์ ติดตามต่อเนื่องไปจนครบกำหนด 14 วัน

ทั้งนี้ ประเทศไทยยังเข้มระบบคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศจีนใน 6 สนามบินนานาชาติ ได้แก่ ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หากพบผู้เดินทางเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค จะนำเข้าสู่ระบบเฝ้าระวัง ติดตาม โดยวันที่ 31 มกราคม 2563 พบผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังเพิ่มขึ้น  64 ราย รวมผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสะสม 344 ราย ขณะนี้ไทยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 12 ราย กลับบ้านแล้ว 7 ราย สะสม 19 ราย

ขอแนะนำคนไทยปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันตัวเองและป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม ขอเชิญชวนประชาชนพกหน้ากากอนามัยจากผ้าไว้ติดตัวเพื่อป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทางเดินหายใจ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ หากมีไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์ทันที สำหรับการทิ้งหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ใช้แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นแหล่งเชื้อโรค ให้พับหน้ากากอนามัยแล้วม้วนใส่ถุงที่ปิดสนิทแล้วทิ้งลงในถังขยะที่มีฝาปิด ล้างมือทุกครั้งหลังทิ้งหน้ากากอนามัย หากเป็นหน้ากากผ้าควรมีสำรองอย่างน้อย 2 ผืน เมื่อใช้แล้วต้องซักทำความสะอาด ตากแดดให้แห้งเพื่อฆ่าเชื้อทุกครั้ง หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเว็บไซต์กรมควบคุมโรค

 

3. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค

-จากการตรวจคัดกรอง 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563  ถึง วันที่ 25 มกราคม 2563 จำนวน 137 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คน วันที่ 24-31 มกราคม 2563 ท่าอากาศยานเชียงราย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยาน ภูเก็ต ท่าอากาศยานกระบี่ ท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ คัดกรองผู้โดยสารสายการบิน จากสาธารณรัฐประชาชนจีน 152 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง จำนวน 8,792 ราย ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง

– นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค

4.ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019

ย้ำเตือนประชาชนหมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด