ส่องฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 16 มีอะไรเปลี่ยนไป และมีอะไรมาใหม่ในเวอร์ชั่นนี้
วันที่ 13 กันยายน 2565 เป็นวันแรกที่แอปเปิล (Apple) เปิดให้ผู้ใช้ไอโฟน สามารถอัพเดตเวอร์ชั่นระบบปฏิบัติการ iOS เป็นเวอร์ชั่นใหม่ iOS 16 ซึ่งถูกพัฒนาและเพิ่มความสามารถใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้ไอโฟน ตั้งแต่หน้าจอล็อก (Lock Screen) จนถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ภายในเครื่อง
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- NETA X ขาย มิ.ย.นี้ ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท หลัง MOU สรรพสามิต
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
“ประชาชาติธุรกิจ” ชวนส่องความใหม่ที่น่าสนใจใน iOS เวอร์ชั่นนี้
หน้าจอล็อกแบบใหม่ ออกแบบได้ตามใจ
หน้าจอล็อก (Lock Screen) หนึ่งในความใหม่บน iOS 16 ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อกให้เป็นตัวเองได้ ตั้งแต่การเปลี่ยนฟอนต์นาฬิกา เพิ่มวิตเจ็ตต่าง ๆ จนถึงสร้างหน้าจอล็อกได้หลากหลายรูปแบบและเลือกเปลี่ยนได้ตามต้องการ
ขณะที่การแสดงแจ้งเตือน (Notification) iOS 16 จะแสดงการแจ้งเตือนทั้งหมดที่ด้านล่างของหน้าจอ และสามารถเลือกมุมมองการแสดงแจ้งเตือนได้ว่าจะแสดงแบบขยาย แบบซ้อน หรือแบบซ่อนการแจ้งเตือนจากหน้าจอล็อก รวมถึงรองรับการแสดง กิจกรรมสด (Live Activities) ที่ทำให้สามารถติดตามผลการแข่งขันกีฬาหรือติดตามความเคลื่อนไหวจากแอปพลิเคชั่นที่รองรับได้
นอกจากนี้ iOS 16 บน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ยังรองรับการแสดงผลนาฬิกาและวิดเจ็ตต่าง ๆ บนหน้าจอล็อก ขณะปิดหน้าจอ หรือ Always-On Display อีกด้วย
เลือกโหมดโฟกัสได้ง่าย แค่ลิงก์กับหน้าจอล็อก
นอกจากหน้าจอล็อกที่สามารถเลือกออกแบบได้หลากหลายและตามใจแล้ว โหมดโฟกัส (Focus Mode) ใน iOS 16 ใหม่ สามารถลิงก์รูปแบบการโฟกัสเข้ากับแต่ละหน้าจอล็อกได้เลย และเมื่อต้องการใช้งานโหมดโฟกัส ก็สามารถเลือกหน้าจอล็อกให้ตรงกับรูปแบบการโฟกัสได้ทันที ตั้งแต่แบบห้ามรบกวน เวลางาน เวลานอนหลับ หรือเวลาส่วนตัว
โหมดโฟกัสใน iOS 16 ใหม่ ยังเพิ่มฟิลเตอร์ ช่วยกรองการแจ้งเตือนที่ไม่สำคัญ และแจ้งเตือนเฉพาะเรื่องที่สำคัญให้ผู้ใช้ตามโหมดการโฟกัสที่เลือกอีกด้วย
แอปข้อความ และแอปเมล์ กับการใช้งานใหม่ ๆ
แอปข้อความ (Messages) และแอปเมล์ (Mail) หนึ่งในแอปที่ได้รับการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ รองรับการใช้งานที่หลากหลายขึ้น โดยแอปข้อความ รองรับการแก้ไขข้อความ ยกเลิกการส่งข้อความ (Unsent) และทำเครื่องหมายยังไม่ได้อ่าน (Unread) แล้วกลับมาตอบข้อความภายหลังได้ และรองรับ SharePlay via Messages ที่ให้ผู้ใช้สามารถดูหนัง ฟังเพลง และคุยพร้อมเพื่อนได้ทันทีในแอปเดียว
ขณะที่แอปเมล์ ได้รับการออกแบบฟีเจอร์ที่หลากหลาย ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น ตั้งแต่การตั้งเวลาส่งอีเมล์ล่วงหน้า การยกเลิกการส่งก่อนที่อีเมล์จะไปถึงอินบอกซ์ของผู้รับ ตั้งเตือนความจำให้กลับมาที่อีเมล์นั้นในวันหลัง จนถึงการรับคำแนะนำให้ติดตามผลหากยังไม่มีการตอบกลับ และเตือนอัตโนมัติเมื่อลืมระบุผู้รับหรือลืมแนบไฟล์ในอีเมล์
ถ่ายภาพซ้ำ แชร์ให้เพื่อน หรืออ่านข้อความในภาพก็ทำได้
ฟีเจอร์ด้านรูปภาพใน iOS 16 ได้รับการพัฒนาใหม่ สามารถตรวจจับภาพที่ถูกถ่ายซ้ำกัน และสามารถลบภาพที่ซ้ำกันออกไปได้ทันที รวมถึงรองรับการล็อกอัลบั้มภาพที่ซ่อนไว้ และอัลบั้ม “ที่เพิ่งลบล่าสุด” โดยสามารถปลดล็อกได้ด้วยวิธีการปลดล็อกเครื่องแบบที่คุ้นเคย
นอกจากนี้ ยังสามารถแชร์คลังรูปภาพกับเพื่อน และเลือกแชร์ภาพจากแอปกล้องได้ทันที หรือตั้งค่าให้แชร์รูปภาพที่ถ่ายลงในคลังที่แชร์กันได้อัตโนมัติเมื่ออยู่ใกล้เพื่อน
สำหรับสายเดินทาง หรือสายถ่ายภาพเอกสารทุกคน ฟีเจอร์ข้อความในภาพ (Live Text) ได้รับการพัฒนาใหม่ รองรับการใช้งานวิดีโอแล้ว และสามารถทำได้ทั้งการแปลภาษา การคัดลอกข้อความในภาพ และการแปลงสกุลเงินในภาพ
ฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ ใน iOS 16
นอกจากฟีเจอร์หลัก ๆ สำหรับทุกไลฟ์สไตล์แล้ว iOS 16 ยังออกแบบฟีเจอร์ใหม่อีกมากมาย รองรับการใช้งานของทุกคน อาทิ ระบบ Face ID รองรับการสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อก ขณะเครื่องอยู่ในแนวนอน แอปสุขภาพ (Health) รองรับการติดตามการทานยา การแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาทานยา แอปแผนที่ (Maps) รองรับการเพิ่มจุดหมายได้ในการนำทางเพียงครั้งเดียว สูงสุด 15 จุดหมาย
รวมถึงฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัย อย่างการตรวจจับประตู ที่ช่วยนำทางผู้ใช้ iOS ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัดในช่วงที่ใกล้ถึงที่หมาย และการตั้งค่าเครื่อง iPhone หรือ iPad สำหรับเด็ก ที่เปิดให้ผู้ปกครองสามารถกำหนดและควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ของเด็ก ๆ ให้เหมาะสมและปลอดภัยยิ่งขึ้น
สำหรับ iOS 16 รองรับการใช้งานทั้ง iPhone 14 Series และ iPhone 14 Pro Series ตั้งแต่แกะกล่อง รวมถึง iPhone รุ่นเก่า ซึ่งแอปเปิลได้ปล่อยอัพเดตไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยรองรับตั้งแต่ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ขึ้นไป และ iPhone SE รุ่นที่ 2 และ 3
