NVIDIA โชว์ผลประกอบการไตรมาส 4/2566 รายได้พุ่ง 240% จากเอไอบูม และคาดโตต่อได้อีกมาก และกำลังสร้างอิทธิพลกำหนดทิศทางโลกเทคโนโลยี Goldman Sach ชี้เป็นหุ้นที่สำคัญที่สุดใน 7 นางฟ้า “บิ๊กเทค”
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 สำนักข่าว The New York Times รายงานว่า มูลค่าของ Nvidia เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เป็น 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่ต้นปี ขณะที่ภาพรวมทั้งปีมีรายได้เพิ่มขึ้น 240% ส่งผลให้บริษัทกลายเป็นหนึ่งในบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มูลค่าตลาดของ Nvidia ได้แซงหน้า Amazon และ Alphabet ในช่วงสั้น ๆ ก่อนที่จะถอยไปอยู่บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงสุดอันดับที่ 5 แต่กระนั้นภาพรวมตลอดทั้งปี 2566 ที่ผ่านมา มูลค่าของ Nvidia เพิ่มขึ้นมาแล้วกว่า 4 แสนล้านดอลลาร์
ล่าสุด Nvidia รายงานว่ารายรับในไตรมาส 4/2566 เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าจากปีก่อนหน้า เป็น 2.21 หมื่นล้านดอลลาร์ ในขณะที่กำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 9 เท่าตัว อยู่ที่ 1.23 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าประมาณการของวอลล์สตรีตที่ 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์
บลูมเบิร์ก รายงานว่า หุ้นของ Nvidia ร่วงลงมากถึง 4.1% ในวันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งร่วงมาติดกัน 4 วันแล้ว แต่กระนั้น Goldman Sachs Group Inc. ก็ยังเรียกมันว่า “หุ้นที่สำคัญที่สุดบนโลก” เนื่องจากมีอิทธิพลอย่างมากต่อการเพิ่มทุนในปีนี้
นายคิม ฟอร์เรสต์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bokeh Capital Partners LLC กล่าวว่า “Nvidia เป็นตัวขับเคลื่อนหุ้นตัวหนึ่งที่กำหนดทิศทางของตลาดเทคโนโลยีอย่างแท้จริง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมทุกคนถึงหลงใหล”
“เจนเซน หวัง” ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia ระบุด้วยว่า ในปีที่ผ่านเพิ่งจะเริ่มต้นปีที่หนึ่งของวัฏจักร 10 ปี แห่งการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี โดยมี Generative AI เป็นแกน และบริษัทจำนวนมากในโลกกำลังเตรียมการสำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ต้องการชิปประมวลผลเอไออีกมาก
จาก FAANG สู่ 7 นางฟ้า “บิ๊กเทค”
ในช่วงปี 2010 เป็นต้นมา แวดวงเทคโนโลยีจัดกลุ่ม “บิ๊กเทค” ที่เติบโตอย่างโดดเด่นสูงสุด และมีอิทธิพลกว้างขวางไปทั่วโลกว่า กลุ่ม FAANG ได้แก่ Facebook, Amazon, Apple (AAPL), Netflix และ Alphabet หรือ GOOG (Google) รวมเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในปี 2563 ก่อนที่ Tesla จะเข้ามามีบทบาทเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูง
ขณะที่ Nvidia Corp. ถือกำเนิดจากผู้ผลิตการ์ดจอ (GPU) สำหรับเล่นเกมและทำกราฟิก 3 มิติ และก้าวขึ้นมาสู่ 1 ใน 6 บิ๊กเทค กลายเป็นมี 7 บริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ที่ช่วยขับเคลื่อนตลาดหุ้นเทคสหรัฐ และถูกเรียกขานเป็นหนึ่งใน “7 นางฟ้า” (The Magnificent Seven)
NVIDIA เปลี่ยนตัวเองมาโฟกัสการเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลสำหรับเอไอในปีที่แล้ว และได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ได้แรงหนุนจากความต้องการเซมิคอนดักเตอร์เฉพาะทางและราคาสูง ซึ่งใช้สำหรับการฝึกอบรม AI เช่น Chatbot ChatGPT ของ OpenAI ทำให้มูลค่าบริษัทพุ่งแซงหน้า Amazon และคาดว่าหากแนวโน้มการลงทุนด้านเอไอเติบโต ก็จะท้าทาย Microsoft inc. และ Apple inc.
