เศรษฐกิจภูมิภาค

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ผนึก เครือข่ายภาคตะวันออก ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยประชุมสัญจร ผนึกเครือข่ายสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคตะวันออกขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย พร้อม MOU เพิ่มช่องทางการตลาด เชื่อมโยงธุรกิจเอ็มอีกัมพูชา

วันที่ 21 ตุลาคม 2565 สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เดินหน้าร่วมขับเคลื่อนประชุมสัญจรรวมพลังเครือข่ายสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคตะวันออก โดย นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย นายอาคม ศุภางค์เผ่า ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ส่วนภูมิภาค นายพิษณุ อุชุวัฒน์ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคตะวันออก และดร.ณุกานดา กิติศุภวัฒนา ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 19-20 ตุลาคม 2565 ณ โรงแรมบลูแรบบิท จันทบุรี

สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยผนึกเครือข่ายสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคตะวันออก

โดยมี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีเป็นประธานเปิดการประชุมสัญจรสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคตะวันออก พร้อมเป็นสักขีพยานพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในประเทศและประเทศกัมพูชา และเยี่ยมชมให้กำลังใจผู้ประกอบการเอสเอ็มอีภาคตะวันออกที่มาออกร้านแสดงสินค้า

ดร.ณุกานดา กิติศุภวัฒนา ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จังหวัดจันทบุรีได้กล่าวถึงการจัดงาน “ประชุมสัญจรสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ภาคตะวันออก” ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภาคตะวันออก ร่วมกำหนดทิศทาง และนโยบายการทำงานเพื่อขับเคลื่อนสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ส่วนภูมิภาค ตามนโยบาย “เพื่อนช่วยเพื่อน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” เพื่อให้ “อยู่รอด อยู่เป็น อยู่เย็น อยู่ยาว” มีการเชื่อมโยงระหว่างผู้ประกอบการเอาเอ็มอีไทย-กัมพูชา เพื่อหาแนวทาง ในการเชื่อมโยงธุรกิจ เพื่อให้ชุมชนแต่ละพื้นที่เกิดความเข้มแข็ง และสามารถดำเนินธุรกิจร่วมกันได้อย่างยั่งยืน เปิดช่องทางการเชื่อมโยงการค้า ฝระหว่างประเทศ การค้าชายแดนสู่กลุ่มประเทศ AEC

ทั้งนี้ สมาพันธ์เอสเอ็มไทย ภาคตะวันออก ได้ลงนามความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี เพื่อร่วมขับเคลื่อนยกระดับงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์ให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภาคตะวันออก เข้าถึงการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นฐานดำเนินธุรกิจไปสู่ BCG Economy เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนให้กับเอสเอ็มอีไทย ภาคตะวันออกเพิ่มมากขึ้นไปสู่เป้าหมายเอสเอ็มอีไทยที่ต้องการให้เกิด “ตลาด นวัตกรรมนำการผลิต”