“โรงพยาบาลกรุงเทพอุดร” ทุ่มงบฯ 716 ล้าน สร้างอาคารส่วนต่อขยายรองรับผู้ป่วยทั้งไทย-ลาว เพิ่มจาก 100 เตียง เป็น 243 เตียง ลุยปรับบริการรับสถานการณ์โควิด-19 จัดบริการปรึกษาออนไลน์-ส่งยาถึงบ้านลูกค้า สปป.ลาว พร้อมจัดบริการฉุกเฉินช่วยชีวิต
พลโทนายแพทย์ธวัชชัย ศศิประภา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพอุดร เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้โรงพยาบาลกรุงเทพอุดรอยู่ระหว่างก่อสร้างอาคารส่วนต่อขยาย จำนวน 9 ชั้น วงเงินลงทุน 716 ล้านบาท
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- KBANK ปรับโครงสร้างใหญ่ ลดจำนวนบอร์ด ตั้ง 4 เอ็มดีเป็น “ผู้จัดการใหญ่” มีผล 1 พ.ค.67
เพื่อรองรับผู้ป่วยทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ จำนวน 143 เตียง จากเดิมโรงพยาบาลสามารถรองรับได้ 100 เตียง ทำให้สามารถรองรับได้เป็น 243 เตียง และสามารถจอดรถยนต์ได้อัตโนมัติ 7 ชั้น รวม 312 คัน ทั้งนี้ตามแผนจะสร้างเสร็จเปิดให้บริการเดือนมกราคม 2565
“ก่อนโควิดเรามีลูกค้าคนไทย 60% สปป.ลาว 30% และต่างชาติอื่น 10% เป็นกลุ่มเขยฝรั่ง นอกจากนี้มีการปรับตัวรับมือโควิด-19 ด้วยการปรับวิธีการให้บริการ การรักษาในแบบ new normal โดยการเพิ่มระบบคัดกรองผู้ป่วยตั้งแต่ด้านหน้าโรงพยาบาล
ซึ่งใช้ประตูทางเข้า-ทางออกทางเดียว และเพิ่มบริการแบบใหม่ เช่น ระบบปรึกษาแพทย์ online, ส่งยาไปถึงที่บ้าน โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล, ติดตามอาการที่บ้านกรณีผู้ป่วยเรื้อรังที่ไม่สามารถเดินทางมาที่โรงพยาบาลได้ เป็นต้น”
เมื่อลูกค้าจากฝั่ง สปป.ลาว ไม่สามารถมารับบริการที่โรงพยาบาลได้ ทางโรงพยาบาลมีการปรับตัว คือ เพิ่มบริการแบบใหม่ เช่น ระบบปรึกษาแพทย์ online และส่งยาไปถึงที่บ้าน
ส่วนกรณีผู้ป่วยฉุกเฉินที่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต และเกินศักยภาพในการรักษาของ สปป.ลาว จะมีบริการรับ-ส่ง ผู้ป่วยฉุกเฉินดังกล่าวที่ด่านไทย-สปป.ลาว โดยอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ที่ด่านดังกล่าว
พลโทนายแพทย์ธวัชชัยกล่าวต่อไปว่า ในอนาคตมีแผนในการพัฒนา 7 ด้าน ได้แก่ 1.ศักยภาพด้านบริการอุบัติเหตุ และฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางบก (ambulance) และทางอากาศยาน (air evacuation) 2.พัฒนาศักยภาพด้านการรักษากลุ่มผ่าตัดผ่านกล้อง (minimal invasive surgery)
ในแต่ละสาขาอย่างต่อเนื่อง 3.พัฒนาศักยภาพด้านการรักษาภาวะวิกฤตอย่างต่อเนื่อง (critical care) ในกลุ่มโรคที่มีความซับซ้อน รุนแรง มีความเสี่ยงเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต 4.พัฒนาศักยภาพศูนย์หัวใจครบวงจรอย่างต่อเนื่อง 5.พัฒนาศักยภาพด้านการรักษาผู้มีบุตรยากอย่างต่อเนื่อง 6.พัฒนาศักยภาพด้านการรักษากลุ่มโรคเรื้อรังอย่างต่อเนื่อง
7.พัฒนาศักยภาพด้านการดูแลส่งเสริมสุขภาพ ศูนย์ดูแลป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ Royal life อุดรธานี แบบครบวงจร ผอ.โรงพยาบาลกรุงเทพอุดรกล่าว
“นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลกรุงเทพอุดรได้จัดหาแพทย์เฉพาะทางเข้ามาเสริมทัพในการให้บริการใน 4 ด้าน เช่น ศาสตราจารย์นายแพทย์เสวก วีระเกียรติ เข้ามาช่วยดูแลในส่วนของศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก และการผ่าตัดผ่านกล้องไร้รอยแผล
ด้านศูนย์ดูแลป้องกันและฟื้นฟูสุขภาพ Royal life อุดรธานี มีนายแพทย์ยงยุทธ มัยลาภ และแพทย์หญิงชนมพรรษ์ กระแสร์ เข้ามาช่วยดูแล ส่วนการผ่าตัดผ่านกล้องด้านกระดูกและข้อ เวชศาสตร์การกีฬา มีนายแพทย์มนูศักดิ์บุญอาจ เข้ามาช่วยดูแล”
