เศรษฐกิจภูมิภาค

แม่สอดยังวิกฤตระดับน้ำสูง เจ้าหน้าที่แจ้งหวั่นล้นท่วมเมือง

น้ำท่วม จ.ตาก

แม่สอดยังวิกฤต ระดับน้ำท่วมสูง หลังมีฝนตกต่อเนื่อง เกิดน้ำป่าไหลหลาก และล้นตลิ่ง  เจ้าหน้าที่แจ้งหวั่นท่วมเมือง

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 รายงานข่าวจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตาก เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีฝนตกต่อเนื่องในเขตพื้นที่ 5 อำเภอด้านตะวันตกของจังหวัดตากตั้งแต่วันที่ 26-28ก.ค.64 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และล้นตลิ่ง โดยน้ำในลำห้วยต่างๆ ไม่สามารถไหลลงแม่น้ำเมยได้ เพราะระดับน้ำในแม่น้ำเมยสูงขึ้น ทำให้หนุนน้ำในลำน้ำห้วยสาขาต่างๆ เอ่อล้นขึ้น น้ำลากลงมาไม่สามารถระบายได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร บ้านเรือนราษฎรณ์ และถนนหลายสายได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในพื้นที่ 2 อำเภอ คืออ.แม่สอด และอ.แม่ระมาด

โดยพื้นที่เกิดปัญหาในอ.แม่สอด มีพื้นที่ 3 ตำบลได้รับผลกระทบ ประกอบด้วยต.ท่าสายลวด,ต.แม่กาษา หมู่ที่ 10 บ้านใหม่ริมเมย ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพเข้าไปอาศัยในสำนักสงฆ์มณีวังทอง 10 ครัวเรือน เป็นคนไทย 17 คน คนเมียนมา 13 คน ,ต.แม่ปะ ปัจจุบันพื้นที่ทั้ง 3 ตำบลเข้าสู่ภาวะเฝ้าระวัง

ส่วนอ.แม่ระมาด มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประกอบด้วย ต.แม่จะเรา หมู่ที่ 4 บ้านวังผา น้ำลำห้วยแม่ละเมา และลำห้วยโปร่งเกล็ดเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ มีประชาชนได้รับผลกระทบ 64 ครัวเรือน จำนวน 180 คน ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังมีพื้นที่ริมตลิ่งซึ่งมีปริมาณน้ำเอ่อล้นตลิ่ง แต่เริ่มลดระดับลง โดยมีจุดระดับน้ำลึกที่สุดประมาณ 150 ซม.ปัจจุบันพื้นที่ทั้งหมดเข้าสู่ภาวะเฝ้าระวัง

สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 2 อำเภอมีจำนวนประชากรได้รับผลกระทบประมาณ 74 หลังคาเรือน แบ่งเป็นอ.แม่สอด 10 ครัวเรือน อ.แม่ระมาด 64 ครัวเรือน และมีประชากรต้องอพยพมายังสำนักสงฆ์มณีวังทอง จำนวน10 ครัวเรือน รวม 32 คน ทั้งนี้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ส่วนทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายมีบ้านเรือนได้รับผลกระทบน้ำเอ่อล้นเข้าทั้งหมด 74 หลัง

ด้าน นายประเสริฐ จึงกิจรุ่งโรจน์ ประธานหอการค้าจังหวัดตาก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” เรียกว่า จ.ตาก เจอวิกฤติ 2 เด้ง ทั้งโควิด-19 และน้ำท่วม โดยสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาอยู่แล้ว ผู้ประกอบการร้านค้าบางแห่งก็ปิดกิจการชั่วคราว เพราะยังมีช่วงวันหยุดมากมาย ธุรกิจค้าขายก็ไม่ดี ประกอบกับมีฝนตก และเมื่อเจอน้ำท่วมก็ทำให้ความเสียหายเพิ่มอีก

ตอนนี้ยังประเมินพื้นที่ไม่ได้ แต่โชคดีที่พื้นที่เศรษฐกิจในตัวเมืองนั้นมีระบบลำเหมืองช่วยระบายน้ำที่ดีเร็วและดี ทำให้ตลอด 4- 5 วันที่ผ่านมาซึ่งมีฝนตกต่อเนื่องและขณะนี้ฝนก็ยังตกอยู่ ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก ขณะที่ริมน้ำเมยที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำสุดจากทั้งฝั่งเมียวดี-แม่สอด ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งระบายน้ำไม่ทันแต่ก็เป็นพื้นที่รอบนอกเมืองย่านเขตที่พักอาศัยไม่ใช่พื้นที่เศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ระดับน้ำในตอนนี้เริ่มขึ้นสูงขึ้นเรื่อย ๆ กว่า 70-80 % และกำลังล้นฝาย หากล้นฝ่ายมาสมทบกับน้ำฝนที่ตกลงมา เกรงว่าน้ำอาจจะท่วมในเมือง ซึ่งต้องดูการบริหารจัดการว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะเริ่มมีการแจ้งเตือนจากเจ้าหนี้ที่มาแล้ว