คลายล็อกดันทราฟฟิกพุ่ง CPN ย้ำแผนปั้นมิกซ์ยูสเจาะไทย-เทศ

เซ็นทรัลศรีราชา

ซีพีเอ็น เผยผลประกอบการ Q3 รายได้-กำไรลดลงจากผลกระทบโควิด ชี้หลังคลายล็อกทราฟฟิกศูนย์การค้าดีดกลับ 75% สเต็ปถัดไปเตรียมเปิดเซ็นทรัลอยุธยา-จันทบุรี มิกซ์ยูสใหม่ ประกาศเดินหน้าตามแผนยุทธศาสตร์ หาโอกาสลงทุนใหม่ทั้งไทยและต่างประเทศ

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการเงิน บัญชี และบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จํากัด (มหาชน) หรือ CPN เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 3/64 บริษัทมีรายได้รวม 5,103 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32.9 และมีกำไรสุทธิ 229 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 90.8

สำหรับงวดเก้าเดือนแรกของปี ระหว่างมกราคม-กันยายน 2564 มีรายได้รวม 20,995 ล้านบาท ลดลง 11% และกำไรสุทธิ 5,332 ล้านบาท ลดลง 29% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ทำให้ต้องปิดศูนย์การค้าชั่วคราวในพื้นที่ควบคุม

นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์
นภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์

ขณะที่ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบัน หลังมีการคลายล็อกดาวน์สถานการณ์เริ่มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากผู้คนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เข้าใช้บริการในศูนย์ฯภายใต้มาตรฐาน “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ Safe Plus+” ส่งผลให้จำนวนทราฟฟิกของศูนย์การค้าส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯกลับมา 70-75% ส่วนสาขาในต่างจังหวัดทราฟฟิกกลับมาเกือบ 100% แล้ว

ล่าสุดได้เข้าซื้อกิจการของบริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF และเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยธุรกิจของ SF จะช่วยเสริมการเติบโตในระยะยาวได้ ผ่านโครงการศักยภาพสูงหลายแห่ง อาทิ คอมมิวนิตี้มอลล์ และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับ super regional mall อย่างเมกาบางนา ที่ทาง SF ร่วมลงทุนและพัฒนากับผู้นำธุรกิจค้าปลีกระดับโลกอย่าง IKEA

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าลงทุนเปิดโครงการใหม่ตามแผนที่วางไว้ ล่าสุดเพิ่งเปิดให้บริการ เซ็นทรัล ศรีราชา ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 4,200 ล้าน รวมทั้งเตรียมเปิด เซ็นทรัล อยุธยา ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 นี้ ก่อนเตรียมเปิดเซ็นทรัล จันทบุรี ในช่วงกลางปี 2565 และโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ที่ร่วมพัฒนากับบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะทยอยเปิดให้บริการในปี 2566-2567 เป็นต้นไป

สำหรับแผนการลงทุนและเป้าหมายธุรกิจในระยะ 5 ปี (ปี 2564-2568) บริษัทได้ปรับแผนการลงทุน และแผนพัฒนาโครงการใหม่ที่ยังไม่ได้ประกาศ ทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบผสม โครงการที่พักอาศัย รวมถึงแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมทั้งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ


บริษัทยังคงศึกษาโอกาสการลงทุนธุรกิจในรูปแบบอื่น การเข้าซื้อกิจการ และการลงทุนในต่างประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย และเวียดนาม รวมถึงศึกษาโอกาสการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อขยายช่องทางในการสร้างรายได้ใหม่และสอดคล้องกับแผนการเติบโตตามเป้าหมายในอนาคต