มอไซค์ครอบครัวโตไม่หยุด “ยามาฮ่า” ฟุ้งทั้งปีกวาดแชร์เพิ่มเท่าตัว

ยามาฮ่าโชว์ยอดขายไตรมาสแรกโตเหนือตลาดรถรวม ชี้เศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวเริ่มฟื้น เชื่อดันยอดขายมอเตอร์ไซค์โตต่อเนื่อง พร้อมรีโนเวตศูนย์ยามาฮ่าสแควร์ครั้งใหญ่ในรอบ 18 ปี เทงบฯ 3,000 ล้าน 600 สาขา ภายใน 4 ปี

นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดรถจักรยานยนต์ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาว่า ยามาฮ่ามีการเติบโตสูงกว่าตลาดโดยรวมเล็กน้อย คือ ทำได้ 3.6% จากเดิมคาดว่าจะโต 10% แต่เนื่องจากปัญหาขาดแคลนชิ้นส่วนทำให้รถรถขาดสต๊อก 3-4 เดือน

ขณะที่ตลาดโดยรวมโตแค่ 3% มียอดขายรวม 500,000 คัน ส่วนยามาฮ่ามี 67,000 คัน ขณะที่มาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นจาก 14.8% เป็น 14.9%

สำหรับสถานการณ์ของตลาดรถจักรยานยนต์นั้นถือว่าปัจจัยบวกชัดเจนทั้งสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเพิ่มขึ้น และเชื่อว่าหากประเทศไทยยังคงสามารถรักษาเสถียรภาพด้านต่าง ๆ เอาไว้ได้ ก็น่าจะส่งผลดีต่อตลาด

ในส่วนของยามาฮ่านั้น จะเห็นได้ว่ารถจักรยานยนต์ประเภทโมเพดหรือรถครอบครัว มีอัตราการเติบโตค่อนข้างสูง ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดของรถกลุ่มนี้เพิ่มจากเดิม 5% ขึ้นไปเป็น 10.8% โดยลูกค้ามั่นใจการรับประกันคุณภาพสินค้าที่เพิ่มระยะเวลาเป็น 5 ปี

ส่วนยอดรวมตลาดรถจักรยานยนต์คาดการณ์ว่าจะโตอีก 2% หรือประมาณ 1.64 ล้านคัน ยามาฮ่าตั้งเป้าขาย 287,000 คัน เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 8% เมื่อเทียบจากปีที่ผ่านมา และจะขยับส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 17.5%

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 การขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ และปัญหาด้านการขนส่งยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์”

ปีนี้ บริษัทยังมีแผนเดินหน้าพัฒนาปรับปรุงเครือข่ายการจำหน่ายครั้งใหญ่ในรอบกว่า 18 ปี สำหรับศูนย์ยามาฮ่าสแควร์ โดยได้เตรียมงบประมาณสำหรับการปรับปรุง ตามรูปแบบใหม่

ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการให้เป็น YAMAHA NEW DESIGN SHOWROOM ภายใต้คอนเซ็ปต์ MOVEFURTHER, MOVE FASTER, TOGETHER WITH YAMAHA

เบื้องต้น ใช้งบประมาณต่อสาขาราว ๆ 4-5 ล้านบาทโดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าจะขยายศูนย์ยามาฮ่าสแควร์ ให้ครบ 60 แห่งภายในสิ้นปี 2565 นี้ จากปัจจุบันมีอยู่ 15 แห่ง และตั้งเป้าจะปรับปรุงให้ครบ 600แห่งภายในระยะเวลา 4 ปีจากนี้ หรือภายในปี 2569 คิดเป็นมูลค่าลงทุนราว ๆ 3,000 ล้านบาท

ด้านนายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด เปิดเผยว่า ปัจจุบันยามาฮ่ามีตัวแทนจำหน่ายอยู่ 3 รูปแบบ คือ ยามาฮ่าสเเควร์, ยามาฮ่าสโตร์

และยามาฮ่าป้ายแดง อนาคตหากผู้แทนจำหน่ายมีความพร้อมบริษัทก็จะทยอยปรับปรุงรูปแบบหน้าร้านให้มีความทันสมัย ส่วนขนาดถ้าเป็นตึกแถวต้องมี 4 ห้อง แบ่งเป็น 3 ห้องขาย อีก 1 ห้องเป็นเซอร์วิส ซึ่งเป็นมาตรฐานของยามาฮ่า

สำหรับ YAMAHA NEW DESIGN SHOWROOM ได้รับการออกแบบจากอินทีเรียร์ดีไซเนอร์ชื่อดังของไทย ผ่านคอนเซ็ปต์ MOVE FURTHER, MOVE FASTER, TOGETHER WITH YAMAHA

“เราจะเน้นไปยังกลุ่มผู้พร้อมลงทุน เน้นเมืองหลัก ๆ ก่อน ยามาฮ่าช่วยลงทุนกับดีลเลอร์คนละครึ่งปัจจุบันจะเห็นว่ารายได้หลักของดีลเลอร์มาจากบริการหลังการขายมากขึ้น เช่น บิ๊กไบก์นั้น รายได้ 40% มาจากเซอร์วิส คนเริ่มกลับเข้ามาใช้บริการที่ศูนย์มากขึ้น”